มะปรางกับมะยงชิด ผลไม้ฤดูร้อนหน้าเหมือนต่างกันอย่างไร?
ในที่สุดประเทศไทยก็เข้าสู่หน้าร้อน ฤดูซัมเมอร์ซัมใจแบบนี้ต้องเติมความสดชื่นด้วยผลไม้หวานๆ ฉ่ำๆ สักหน่อย ในวันนี้ท็อปส์ พิกส์ จะขอโฟกัสไปที่ผลไม้ทรงกลมรี เปลือกสีเหลือง และมีขนาดพอดีมือ ที่มีฤดูเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูร้อนอย่างมะปราง กับมะยงชิด 2 ผลไม้หน้าเหมือนที่จริงๆ แล้วแอบซ่อนความต่างอยู่นิดๆ แอดมินรู้ค่ะว่าตอนนี้ทุกคนสงสัยกันอยู่ว่ามะปราง กับมะยงชิดนั้นมีจุดแตกต่างกันตรงไหน ไปค่ะ แอดมินจะเล่าให้ฟัง
As Thailand is officially entering summertime, let’s get refreshed with sweet and juicy fruits. Today we proudly present plum mango and marian plum, the two identical summer fruits with spherical oval shape, yellow skin in a palm size and slightly hidden differences. Wondering what these differences are? Find out with us!
สี
Color
มาเริ่มกันที่สิ่งแรกที่ทำให้สะดุดตาทุกคน ซึ่งก็คือสีของผลมะปราง และมะยงชิด โดยสีของมะปรางเมื่อยังไม่สุกดี จะมีสีเขียวซีด และเมื่อสุกเต็มที่จะมีสีเหลืองสด ในขณะที่มะยงชิด เมื่อยังเป็นผลดิบจะมีสีเขียวเข้ม และเมื่อโตเต็มวัยก็จะมีสีเหลืองนวลค่อนไปทางอมส้มละมุนตาค่ะ
Let’s start off with color, the first attractive feature. Raw plum mango has a pale green color and becomes vivid yellow once ripe whereas raw marian plum has a dark green color and turns orange yellow when it’s ripe.
รูปทรง
Shape
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าที่มะปรางกับมะยงชิดดูคล้ายกันราวกับฝาแฝด ก็เป็นเพราะเหตุผลเรื่องรูปทรงของผลไม้ทั้ง 2 ชนิดนี้ ซึ่งมีผลทรงกลมรี และทั้งสองผลไม้นี้จะจำแนกแตกต่างตรงไหน ไปต่อกันที่จุดสังเกตต่อไปได้เลย!
It’s undeniable that plum mango and marian plum look almost identical as they share the same spherical oval shape. Move on to the next feature to differentiate these two fruits.
ขนาด
Size
และจุดสังเกตที่ทำให้เราแยกแยะมะปราง กับมะยงชิดออกก็คือเรื่องของขนาดนั่นเอง หากใครอยากทานมะปราง ก็ลองมองหาลูกที่ทรงกลมรี แต่เรียวเล็กดูนะคะ แต่ถ้าใครอยากทานมะยงชิด ต้องสังเกตผลไม้รูปทรงกลมรีขนาดใหญ่ประมาณเท่าไข่ไก่เบอร์ 1 หรือเบอร์ 0 ค่ะ รับรองว่าเลือกทานถูกแบบที่ต้องการแน่นอนค่ะ
The obvious feature that makes plum mango and marian plum different from one another is size. If you want to enjoy the plum mango, look for a small and tapered fruit. For those wishing to relish marian plum, you should opt for a big and tapered fruit in the size of an egg no. 1 or no. 0. This technique can guarantee that you get the right kind of fruit.
สัมผัส
Texture
หากใครยังไม่ชัวร์ แอดมินขอให้ทุกคนลองลูบไล้สัมผัสกับผิวของผลไม้ทั้ง 2 ชนิดดูค่ะ โดยมะปรางจะมีผิวสัมผัสที่ตึง ลองกดดูเบาๆ แล้วเนื้อแน่น ไม่ยุบ แต่ถ้าเป็นมะยงชิดทุกคนจะได้สัมผัสผิวเรียบลูบไปไม่สะดุด เมื่อบีบเบาๆ ก็จะรู้สึกว่าผิวนุ่มกว่ามะปรางค่ะ
If you’re still uncertain, have a feel of the fruit textures. Plum mango has tight skin and firm flesh when you lightly press on it. On the contrary, marian plum comes with smooth skin and soft flesh.
รสชาติ
Taste
ขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้ฤดูร้อน รสชาติหวานฉ่ำต้องมาเป็นที่หนึ่ง ซึ่งมะปรางกับมะยงชิดก็เช่นกันค่ะ แต่ทว่าความหวานฉ่ำของทั้ง 2 ผลไม้ทรงรีสีเหลืองนี้ก็สามารถแบ่งแยกย่อยๆ ไปได้อีก โดยมะปรางเมื่อครั้นยังเป็นผลดิบจะมีรสมันคล้ายกับอะโวคาโด แต่พอสุกได้ที่แล้วก็จะให้รสที่หวานฉ่ำ ถูกใจเหล่าผลไม้ไทยเลิฟเวอร์สุดๆ เลยค่ะ ในขณะเดียวกันมะยงชิดเมื่อเป็นผลดิบจะมีรสเปรี้ยวจี๊ด ต้องรอจนเติบโตจึงค่อยมีรสหวานอมเปรี้ยวจนครองใจและเป็นที่นิยมของใครหลายๆ คนในปัจจุบันนี้ค่ะ
Known for summer fruits, sweet and juicy taste must come first which plum mango and marian plum are included. However, the level of sweetness and juiciness of these 2 fruits can also be different depending on the stage of ripeness. Ripe plum mango tastes nutty similar to avocado but becomes sweet and juicy when properly ripe whilst raw marian plum offers a sharp flavor but turns sweet and sour once ripe.
นอกจากรูป รส กลิ่น สีที่ทำให้เราสามารถแยกแยะมะปราง กับมะยงชิดออกจากกันได้อย่างมืออาชีพแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องลองสังเกตดูก็คือมะปราง ในบางสายพันธุ์ อาจมียางติดอยู่กับเปลือกและเนื้อของผลไม้ค่ะ ซึ่งยางเหล่านี้ก็มักจะทำให้ผู้รับประทานระคายคอได้ค่ะ ซึ่งต่างจากมะยงชิด ที่เป็นผลผลิตปราศจากยาง ผู้ทานจึงแทบจะไม่รู้สึกระคายคอเมื่อได้ลองลิ้มชิมรสค่ะ
Apart from the above-mentioned features used to differentiate plum mango and marian plum like a pro, one more noticeable thing is that some variety of plum mango may contain sap on the fruit skin and flesh which can cause an itchy throat whereas marian plum contain no sap and hence no itchy throat.
เห็นไหมคะว่าการแยกมะปราง กับมะยงชิดนั้นง่ายนิดเดียว แอดมินก็หวังว่าทุกคนจะจดจำและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันกันนะคะ ซึ่งนอกจากแอดมินจะมีสาระดีๆ มาฝากทุกคนในทุกสัปดาห์กันแล้วก็ยังมีสูตรอาหารอร่อยๆ มาแจกทุกคนอีกด้วยเช่นกันค่ะ ในสัปดาห์นี้แอดมินขอมาในธีมขนมหวานไทยจากผลไม้ฤดูร้อนอย่างมะปราง นำเสนอผ่านเมนู “มะปรางคาบแก้ว” มะปรางสุกเนื้อฉ่ำสอดไส้ข้าวเหนียวมูนสีม่วงอมฟ้าที่ได้จากดอกอัญชัน ราดน้ำกะทิหวานมันซ่อนความเค็มที่ปลายลิ้น อร่อยฟินอินซัมเมอร์สุดๆ ไปเลยค่า ใครอยากรู้ว่าเมนูนี้จะต้องใช้วัตถุดิบชิ้นไหน และมีขั้นตอนวิธีการทำอย่างไร ตามแอดมินมาเลยค่า...
It's not that difficult to tell plum mango and marian plum apart. Hopefully you find the tips useful and apply them to your daily life. On top of the tricks, we’ve giving away a free recipe of “Sticky Rice Stuffed Plum Mango”, a Thai sweet delight from plum mango. Relish the juicy ripe plum mango stuffed with sticky rice in blue purple made from butterfly pea flower and topped with sweet yet slightly salted coconut cream to kick off summer the right way. Check out the essential ingredients and step-by-step instructions.
วัตถุดิบ
Ingredients
1. ท็อปส์ ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 500 กรัม / Tops white glutinous rice 500 g.
2. มะปราง 20 ลูก / 20 Plum mangoes
3. หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง / Coconut cream 2 cups
4. ดอกอัญชันอบแห้ง 100 กรัม / Dried butterfly pea flower 100 g.
5. แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ / Rice flour 1 tbsp.
6. ท็อปส์ น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วยตวง / Tops white sugar 1 cup
7. เกลือ ½ ช้อนชา / Salt ½ tsp.
8. น้ำเปล่า 1 เหยือก / Water 1 jug
วิธีทำ
Instructions
1. นำท็อปส์ ข้าวเหนียวเขี้ยวงู เทใส่ลงในชามผสมอาหาร ตามด้วยดอกอัญชันอบแห้ง และน้ำเปล่า แล้วคนส่วนผสมให้เข้ากัน จากนั้นวางชามข้าวเหนียวดอกอัญชันพักไว้เป็นเวลา 3 ชั่วโมง
Put white glutinous rice in a mixing bowl, followed by dried butterfly pea flower and water. Stir to blend well and set aside for 3 hours.
2. เมื่อแช่ข้าวเหนียวครบตามเวลากำหนดแล้ว ให้ตักข้าวเหนียวขึ้นมาพักไว้ในผ้าขาวบาง จากนั้นนำข้าวเหนียวไปนึ่งให้สุก โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที แล้ววางพักไว้ให้เย็นตัวลง
After 3 hours, scoop the glutinous rice and place over a filter cloth. Then, steam for approximately 30 minutes and let it cool down.
3. ตั้งหม้อบนเตาไฟ เทหัวกะทิปริมาณ ½ ถ้วยตวง ท็อปส์ น้ำตาลทรายขาวปริมาณ ½ ถ้วย และเกลือปริมาณ ½ ช้อนชา ใส่ลงในหม้อ ปรับไฟระดับเบา คนส่วนผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำข้าวเหนียวอัญชันที่วางพักไว้ใส่ลงในหม้อ คลุกเคล้าให้ข้าวเหนียวและส่วนผสมน้ำกะทิเข้ากันจนน้ำงวด ปิดเตาไฟ แล้วปิดฝาวางพักไว้
Cook ½ cup of coconut cream, ½ cup of white sugar and ½ teaspoon of salt in a pot over low heat. Stir until well-blended and add the glutinous rice. Stir the ingredients until well-combined and the coconut cream is reduced. Remove from the heat and set aside with the lid on.
4. จากนั้นเราจะมาเตรียมในส่วนของมะปรางและยัดไส้ข้าวเหนียวกัน โดยปอกเปลือกมะปราง คว้านเม็ดออก แล้วตักข้าวเหนียวมูนอัญชันที่วางพักไว้ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ยัดเข้าในผลมะปรางตามจำนวนที่ต้องการ
Prepare plum mangoes by peel of the skin and remove the seeds. Then, stuff the fruits with 1 tablespoon of sticky rice as many as preferred.
5. ตั้งกระทะบนเตาไฟ เทหัวกะทิปริมาณ ½ ถ้วย แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ และเกลือ ½ ช้อนชาใส่ลงในกระทะ ปรับไฟระดับเบา แล้วค่อยๆ เคี่ยวให้ส่วนผสมเข้ากันดี เมื่อส่วนผสมน้ำกะทิเริ่มร้อนให้ปิดเตาไฟทันที
Warm ½ cup of coconut cream, 1 tablespoon of rice flour and ½ teaspoon of salt in a pan over low heat. Let it slowly simmer. Once it’s hot and well-combined, turn off the heat.
6. นำส่วนผสมน้ำกะทิมาราดลงบนมะปรางสอดไส้ข้าวเหนียวให้ชุ่มฉ่ำทั่วทั้งจาน เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จพร้อมเสิร์ฟความหวานสดชื่นฉ่ำใจรับซัมเมอร์นี้ได้ทันทีเลยค่า...
Heavily top the sticky rice stuffed plum mango with coconut cream before serving this refreshing summer delight.
อิ่มท้องพร้อมเติมเต็มอาหารสมองกับการจำแนกแยกแยะความเหมือนที่แตกต่างของมะปราง และมะยงชิด ซึ่งถ้าใครอยากลองนำเทคนิคที่แอดมินแนะนำในข้างต้นไปลองใช้ก็ขอเรียนเชิญมาชมสารพัดผลไม้ไทยหน้าร้อนกันที่ท็อปส์ ทุกสาขาได้เลยค่ะ บอกเลยว่ามีให้ทุกคนลองทายทั้งมะปราง และมะยงชิด ตลอดจนผลไม้ไทยตามฤดูกาลอื่นๆ ที่บอกได้เลยว่าสด ใหม่ ได้คุณภาพดีตามมาตฐานอย่างแน่นอนค่ะ หรือถ้าใครไม่สะดวกไปชมและช็อปกันที่หน้าร้าน ก็สามารถช็อปผ่านหน้าจอในช่องทางออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์ แอปพลิเคชันท็อปส์ ออนไลน์ และในแอป Shopee Mall: Tops Official เราก็พร้อมให้บริการ เพียงแค่คลิกช็อป กดเช็กเอาท์ ท็อปส์ยินดีจัดส่งถึงที่ทันทีเร็วสุดๆ ภายใน 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว ลองช็อปสักครั้งแล้วจะติดใจ! คลิกเลยค่า...
Happy tummy with the tasty fruit dessert and happy brain with how to differentiate plum mango and marian plum. If you wish to test the knowledge, visit any Tops stores to check out a variety of fresh Thai summer fruits ranging from plum mango, marian plum to seasonal fruits of premium quality. Not convenient? Simply shop at Tops Online website, application or Shopee Mall: Tops Official. Just click to shop, check out and your order will be delivered at your front door within 1 hour. Shop now!
Commenti