เรื่องน่ารู้คู่ “สับปะรด” ผลไม้รสหวานฉ่ำ ประโยชน์ล้ำ สรรพคุณเลิศ
สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะทุกคน! เป็นอย่างไรกันบ้างคะ? เพื่อนๆ ได้ไปเที่ยวไหนกันมาบ้าง แต่ถ้าใครไม่ได้ไปเที่ยวไหน ก็สามารถแวะช็อปได้ที่ท็อปส์ และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ทุกสาขานะคะ หรือถ้าเพื่อนๆ คนไหนอยากเพลิดเพลินไปกับสาระน่ารู้ สงกรานต์นี้ท็อปส์ พิกส์ก็มีมาฝากกันเช่นเคยค่ะ กับซีรีส์ผลไม้หน้าร้อนรสหวานฉ่ำอย่าง “สับปะรด” ผลไม้เมืองร้อนเอกลักษณ์โดดเด่นตรงที่มีตารอบตัว หัวมัดจุก และมีใบแหลมคม เนื้อข้างในสีเหลืองรสเปรี้ยวอมหวาน เปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์สุดล้ำ และสรรพคุณสุดเลิศที่ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง ซึ่งวันนี้แอดมินก็จะหยิบมาบอกเล่าทุกๆ คนค่ะ ถ้าเพื่อนๆ พร้อมแล้วตามแอดมินมาเล๊ย...
แหล่งรวมวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด
สับปะรด เป็นผลไม้ทรอปิคอลที่รวมวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด อย่างวิตามินซี ซึ่งมีคุณสมบัติในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยดูดซึมสารอาหารจำพวกธาตุเหล็กได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังเปี่ยมไปด้วยแมงกานีส ที่มีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระ พร้อมช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพในระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกาย อีกทั้งยังมีสารอาหารนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นไทอามีน วิตามินบี 6 ฟอสฟอรัส สังกะสี แคลเซียม วิตามินเอ และวิตามินเคค่ะ
สร้างเสริมระบบย่อยอาหาร
สับปะรดมีเอนไซม์ย่อยอาหารที่เรียกว่า “โบรมีเลน” ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยย่อยอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนั้น สับปะรดยังเป็นแหล่งอาหารของไฟเบอร์ ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงระบบย่อยอาหาร ส่งผลให้ร่างกายสามารถย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหารได้ง่ายยิ่งขึ้นค่ะ
ลดการอักเสบในร่างกาย
นอกจากเอนไซม์ “โบรมีเลน” จะเสริมสร้างระบบย่อยอาหารในร่างกายแล้ว จากการศึกษางานวิจัยยังพบว่า “โบรมีเลน” ที่พบในสับปะรดยังช่วยลดการอักเสบ บวม และช้ำ หลังจากการบาดเจ็บหรือการผ่าตัดได้ค่ะ พร้อมช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อกระดูกอ่อน และการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับโรคข้อเข่าเสื่อม จึงสรุปได้ว่าการทานสับปะรด มีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการข้ออักเสบของเพื่อนๆ ได้เช่นกันค่ะ
ช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพ
การออกกำลังกายหักโหมอาจส่งผลให้กล้ามเนื้อทำงานหนัก เสี่ยงต่อการเกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบ ซึ่งอาจนำไปสู่การบาดเจ็บเรื้อรังหรือฉับพลันตามมาก็เป็นได้ค่ะ แต่ถ้าเมื่อใดที่เกิดการออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงขึ้นมา แอดมินได้ศึกษาจากงานวิจัยหลายชิ้นมาแล้วค่ะว่าการทานสับปะรด จะช่วยฟื้นฟูร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความที่สับปะรดมีสรรพคุณในการต้านการอักเสบอยู่แล้ว จึงช่วยลดอาการเจ็บปวดบวมช้ำของกล้ามเนื้อ และร่างกาย พร้อมช่วยฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมให้เพื่อนๆ กลับไปออกกำลังกายได้เร็วยิ่งขึ้นค่ะ
สำหรับเรื่องน่ารู้คู่ “สับปะรด” ที่ในวันนี้แอดมินหยิบมาฝากกันไม่ได้มีเพียงประโยชน์ล้ำ สรรพคุณเลิศเพียงอย่างเดียวนะคะ แต่แอดมินยังมีทริคการเลือกซื้อสับปะรดให้อร่อยหวานฉ่ำมาแบ่งปันทุกคนกันอีกด้วยค่ะ
โดยอันดับแรกเพื่อนๆ จะต้องสังเกตสีของเปลือกสับปะรดก่อนเลยค่ะ หากสับปะรดลูกนั้นใกล้สุกแล้วก็จะมีสีเหลืองแกมเขียว และถ้าสับปะรดยิ่งมีสีเหลืองเข้ม ก็แสดงว่าสับปะรดลูกนั้นสุกมากค่ะ ถัดมาเพื่อนๆ จะต้องดูในส่วนขั้วบริเวณหัวของสับปะรด ควรมีขั้วสีเขียวสด จึงจะถือว่าสับปะรดลูกนั้นสดใหม่ค่ะ จากนั้นให้ลองดมสับปะรดจะต้องมีกลิ่นหอมจางๆ ติดอยู่ที่ผลสับปะรดค่ะ และสุดท้ายคือลองบีบเบาๆ ตรงผิว สับปะรดที่ดีนั้นควรจะมีเนื้อสัมผัสที่ไม่นิ่มและไม่แข็งมากไปค่ะ และนี่ก็คือ 4 สเต็ปเลือกสับปะรดให้อร่อยหวานฉ่ำที่เพื่อนๆ สามารถจดจำและนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงนะคะ
และเมื่อได้สับปะรดที่ดีแล้ว แอดมินก็ขอชวนทุกคนนำสับปะรดมารังสรรค์เป็นอาหารจานอร่อยกันต่อเลยค่ะ กับเมนู “ซี่โครงหมูอบสับปะรด” หอมกรุ่นไปกับซี่โครงหมูผัดกับเครื่องปรุงและเครื่องเทศ ตัดกับรสเปรี้ยวหวานฉ่ำของสับปะรด พร้อมเสิร์ฟมาในรูปแบบอะโลฮ่า เหมาะกับเป็นอาหารในหน้าร้อนได้เป็นอย่างดี ตามไปดูกันว่าวัตถุดิบที่ต้องเตรียม และวิธีการทำเมนูนี้จะสุดว้าวขนาดไหน ตามแอดมินมาเลยค่า...
วัตถุดิบ
1. ซี่โครงอ่อนหมู 500 กรัม
2. มายช้อยส์ สับปะรดตราดสีทอง 1 ผล
3. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
4. หอมหัวใหญ่ ½ ผล
5. ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำตาลทรายขาว 1 ช้อนโต๊ะ
8. พริกไทยดำโขลกหยาบ 1 ช้อนชา
9. น้ำพริกเผา 3 ช้อนโต๊ะ
10. ต้นหอมหั่นท่อน 20 กรัม
11. น้ำเย็น ⅓ ถ้วย
12. พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด
13. เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
14. ผักชี สำหรับตกแต่ง
15. น้ำมันพืช 500 มล.
วิธีทำ
1. นำซี่โครงอ่อนหมูใส่ลงในชามผสมอาหาร จากนั้นค่อยๆ เติมเบกกิ้งโซดาผสมน้ำเย็นใส่ตามลงไปในชามผสมอาหาร วางพักไว้ 15 นาที เพื่อทำให้เนื้อนุ่มลง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด จากนั้นสะเด็ดน้ำให้แห้งก่อนนำไปผัดในขั้นตอนต่อไป
2. ตั้งกระทะบนเตาไฟ ปรับระดับไฟปานกลาง เมื่อกระทะเริ่มร้อนแล้วใส่น้ำมัน กระเทียม แล้วผัดให้พอหอม จากนั้นใส่ซี่โครงหมูอ่อน และหอมหัวใหญ่ตามลงไป ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน
3. ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม น้ำปลา น้ำตาลทรายขาว และน้ำพริกเผา แล้วคลุกเคล้าให้ส่วนผสมเข้าเนื้อซี่โครงหมูอีกครั้ง
4. เพิ่มกลิ่นหอมให้จานอาหารด้วยพริกไทยดำโขลกหยาบ และใส่สับปะรดหั่นชิ้นพอดีคำตามลงไปในกระทะ แล้วคลุกเคล้าให้สับปะรดและซี่โครงหมูเข้ากัน จากนั้นปิดฝาหม้อเป็นเวลา 15 นาที เพื่อตุ๋นให้เครื่องปรุงและเครื่องเทศในซอสซึมเข้าเนื้อซี่โครงอย่างถึงรสถึงชาติ
5. เมื่อตุ๋นครบเวลาตามกำหนดแล้ว นำต้นหอมหั่นทอนโรยให้ทั่วทั้งกระทะ และคลุกเคล้าซี่โครงหมูตุ๋นอีกครั้ง
6. เตรียมจัดเสิร์ฟอาหาร โดยการตักซี่โครงหมูผัดซอสใส่ลงในผลสับปะรด ตกแต่งให้น่ารับประทานไปอีกขั้นด้วยพริกชี้ฟ้าแดงซอย และผักชีโรยหน้าเป็นอันเสร็จเรียบร้อย พร้อมลิ้มรสความอร่อยในช่วงหน้าร้อนได้เลยค่ะ
สับปะรด ผลไม้หน้าร้อนสุดหวานฉ่ำที่ให้ประโยชน์ครบ และความอร่อยพร้อม ไม่ว่าจะทำเป็นเมนูคาวหวานไหนๆ หรือทานเป็นผลไม้เดี่ยวๆ ก็อร่อยถูกปาก รสชาติถูกใจคนทั่วไปได้อย่างไม่ยาก และถ้าหากหยุดยาวนี้เพื่อนๆ ยังไม่มีเมนูอาหารในใจ ก็หยิบสูตรอาหาร “ซี่โครงหมูอบสับปะรด” ที่แอดมินนำมาฝากไปลองทำทานกันได้นะคะ โดยสามารถเลือกซื้อวัตถุดิบครบสูตรได้ที่ท็อปส์ และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ หรือจะเลือกช็อปที่ท็อปส์ ออนไลน์ ก็สะดวกง่าย ช็อปได้ตลอด 24 ชม. ค่ะ สำหรับวันนี้แอดมินขอตัวลาไปทาน “ซี่โครงหมูอบสับปะรด” คลายร้อนกันก่อนแล้ว ไว้พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีค่า...
Kommentare