5 วิธีฝึกน้องตัวจิ๋วกินผักฉบับเร่งรัด

คุณผู้ปกครองที่มีลูกน้อยกำลังประสบปัญหาเด็กๆ ไม่ยอมกินผักกันอยู่หรือเปล่าคะ? วันนี้ท็อปส์ พิกส์ ขออาสาเป็นตัวช่วยคุณผู้ปกครองหลอกล่อน้องตัวจิ๋วทุกบ้านให้ทานผักอร่อยเหมือนกับทานขนมนมเนยต่างๆ ด้วย 5 วิธีฝึกเด็กๆ ทานผักฉบับเร่งรัด แอดมินขอการันตีเลยว่าเพียงคุณผู้ปกครองลองจดจำและนำไปใช้ ฝึกวันละนิดจิตแจ่มใส อีกไม่นานน้องๆ จะทานผักแบบไม่ฝืนใจกันอย่างแน่นอนค่ะ อยากรู้กันแล้วใช่ไหมคะว่า 5 วิธีฝึกน้องตัวจิ๋วกินผักฉบับเร่งรัดจะมีอะไรกันบ้าง ไปชมกันเลย!

>>ช็อปผักผลไม้สดใหม่ให้น้องตัวจิ๋ว<<

ก่อนที่แอดมินจะเผยถึง 5 วิธีฝึกน้องตัวจิ๋วกินผักฉบับเร่งรัด แอดมินจะมาบอกเล่าเกี่ยวกับปริมาณการรับประทานผักที่เหมาะสมในแต่ละวันของน้องๆ ที่มีอายุตั้งแต่ 3-15 ปี โดยอ้างอิงจากข้อมูลของหน่วยงานมาตรฐานอาหารกลางวันโรงเรียนสำหรับเด็กไทย กองโภชนาการ กรมอนามัย ตามแอดมินไปชมกันค่ะว่าน้องๆ ในแต่ละช่วงอายุจะต้องทานผักในปริมาณเท่าไหนกันค่ะ

• วัยอนุบาล (3-5 ปี) – แนะนำให้ควรทานผักในปริมาณ 1½ - 3 ส่วนต่อวัน

• วัยประถม (6-12 ปี) – แนะนำให้ควรทานผักในปริมาณ 3 ทัพพีต่อวัน

• วัยมัธยมต้น (13-15 ปี) – แนะนำให้ควรทานผักในปริมาณ 4½ ทัพพีต่อวัน

เห็นไหมคะว่าปริมาณแนะนำในการรับประทานผักต่อวันนั้นเป็นขนาดที่กำลังดี ไม่เกินความพยายามของเด็กๆ เลย ยิ่งถ้าได้ใช้เคล็ดลับดีๆ ฝึกน้องตัวจิ๋วทานผักที่แอดมินหยิบมาฝากในวันนี้ เรื่องกินผักไม่ใช่เรื่องใหญ่อย่างแน่นอนค่า!

เปิดเส้นทางที่มาของผัก ด้วยการสร้างกิจกรรมทำสวนครัว

ประเดิมกันที่การฝึกน้องให้คุ้นชิน ในแบบฉบับการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ คุณผู้ปกครองสามารถให้น้องๆ เรียนรู้ถึงที่มาของการกำเนิดของผักแต่ละชนิด ด้วยการปลูกผักสวนครัว ซึ่งเริ่มตั้งแต่การพาน้องๆ ไปเลือกซื้อเมล็ดพันธุ์ผักนานาชนิด สำหรับผักที่แอดมินขอแนะนำให้น้องๆ เริ่มปลูกคือผักชนิดใบอย่างกะเพรา โหระพา ต้นหอม หรือผักชีค่ะ จากนั้นคุณผู้ปกครองก็พาน้องๆ ไปยังแปลงปลูกผัก ให้เจ้าตัวจิ๋วได้ลองพรวนดิน หยอดเมล็ดพันธุ์ ใช้ดินกลบ ให้ปุ๋ย และหมั่นรดน้ำในทุกๆ วันจนผักเติบโต วิธีนี้จะทำให้เด็กๆ ค่อยๆ คุ้นชินกับเหล่าสารพัดผักสวนครัว นอกจากนั้นเจ้าตัวจิ๋วยังจะได้ความภูมิใจในการปลูกผักสวนครัวสำเร็จอีกด้วยค่ะ

พาน้องหนูบุกตลาด ผักชนิดไหนก็ไม่พลาดที่จะรู้จัก

สำหรับคุณผู้ปกครองและน้องๆ บ้านไหนที่มีข้อจำกัดในด้านของเวลา และพื้นที่ แอดมินขอให้ลองวิธีนี้ด่วนๆ เลยค่ะ โดยการพาน้องหนูไปจ่ายตลาดด้วยกัน แล้วพอเวลาถึงแผงผักสารพัดอย่าง แอดมินเชื่อว่าเด็กๆ จะอดใจไม่ไหวที่จะถามคุณผู้ปกครองแน่ๆ ว่าผักชนิดนี้คืออะไร เพียงเราค่อยๆ ตอบน้องด้วยความใจเย็น และอาจจะเชิญชวนให้ทานผักอย่างแนบเนียนไปในเวลาเดียวกัน ด้วยประโยคที่ว่า “วันนี้น้องอยากทานผักแบบไหน?” แอดมินเชื่อว่าวิธีนี้จะทำให้น้องๆ รู้จักผักแต่ละชนิดเพิ่มขึ้น แถมยังได้เลือกทานอาหารเองอย่างเต็มใจอีกด้วย เห็นไหมคะว่าวิธีนี้สามารถเชิญชวนให้น้องๆ ทานผักโดยไม่ต้องบังคับเลยค่ะ

ชวนน้องเต้นรำทำครัว อร่อยชัวร์ไม่กลัวการทานผัก

อีกหนึ่งกิจกรรมสร้างความคุ้นชินให้น้องตัวจิ๋วกินผักฉบับเร่งรัด นั่นก็คือการพาน้องๆ เข้าครัวมาร่วมทำอาหารด้วยกันกับเหล่าผู้ปกครอง โดยอาจจะเริ่มจากหน้าที่เล็กๆ อย่างช่วยล้างผัก เด็ดผัก หรือถ้าอัปเกรดขึ้นมาเป็นพ่อครัวแม่ครัวตัวน้อยก็อาจจะให้น้องๆ ลองหั่นผัก หรือช่วยเป็นลูกมือคุณผู้ปกครองในการลงมือปรุงอาหารก็ได้เช่นกันค่ะ บอกเลยว่านอกจากน้องๆ จะได้คุ้นชินในการสัมผัสผักนานาชนิดแล้ว เจ้าตัวจิ๋วยังได้ความภูมิใจในการช่วยแบ่งเบาภาระคุณผู้ปกครอง และขึ้นชื่อว่าทำอาหารทานเองอีกด้วยค่ะ บอกเลยว่าเข้าครัวครั้งเดียว ได้ประโยชน์มากมายหลายทาง คุ้มค่าสุดๆ ไปเลยค่ะ

ใช้สีสันสดใส จูงใจน้องหนูให้กินผัก

วิธีฝึกน้องตัวจิ๋วนี้เราจะเอาเรื่องของสีสันเข้ามาช่วย เพื่อดึงดูดความสนใจให้กับเด็กๆ รู้สึกว่าการทานผักเป็นเรื่องสนุก คุณผู้ปกครองเพียงลองมองหาสมุดระบายสีเซ็ตผักนานาชนิดสักเล่ม และสีไม้อีกกล่องหนึ่ง ให้น้องๆ ได้แต่งแต้มเติมสีสันสดใสให้กับรูปวาดผักในกระดาษด้วยจินตนาการไม่รู้จบ หากต้องการพัฒนาทักษะทางด้านศิลปะเพิ่มเติม คุณผู้ปกครองอาจจะนำผักจริงๆ มาให้น้องๆ ลองวาดภาพเหมือนด้วยตัวเอง ตามด้วยการระบายสี เพื่อฝึกให้น้องๆ คุ้นชินกับผักแต่ละชนิดยิ่งขึ้น แถมยังช่วยเสริมสร้างทักษะความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็กๆ อีกด้วยนะคะ

เล่นเกมสนุก เติมเต็มทุกความสุขให้ทุกจานผัก

มาปิดท้ายกันที่วิธีฝึกน้องตัวจิ๋วให้ทานผักโดยไม่ตะขิดตะขวงใจแบบสอดแทรกความสุขสนุกสนานด้วยกิจกรรมเล่นเกม เพียงคุณผู้ปกครองลองหาบัตรคำศัพท์ประกอบภาพในหมวดผัก จากนั้นก็ค่อยๆ ป้อนความรู้ให้น้องๆ ว่ารูปผักบนการ์ดนั้นมีชื่อเรียกว่าอะไร เมื่อเด็กๆ เริ่มจดจำและคุ้นชินแล้วเราก็จะมาเริ่มเกมทายชื่อผักจากรูปภาพกัน ซึ่งวิธีการเล่มเกมสนุกเหล่านี้นอกจากจะสร้างความคุ้นชินผักให้เด็กๆ รู้จักมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมอง ในเรื่องของการจดจำเพิ่มขึ้นอีกด้วย และแอดมินขอแนะนำอีกอย่างนะคะ ในกิจกรรมนี้คุณผู้ปกครองอาจจะหาของขวัญกระจุกกระจิกไว้เมื่อน้องเมื่อตอบถูกหมดทุกข้อ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจเล็กๆ เป็นโมเมนต์ดีๆ ให้เจ้าตัวจิ๋วมีความสุขด้วยความสามารถตัวเอง ก็เป็นความทรงจำที่ดีไม่ใช่น้อยเลยทีเดียวค่ะ

การฝึกน้องตัวจิ๋วทานผักไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงให้น้องๆ ลองทำความรู้จักให้คุ้นชินด้วยกิจกรรม หรือกิจวัตรประจำวันที่ค่อยๆ ซึมซับไปแบบรู้ตัวอีกทีก็ทานผักได้อย่างสบายใจ เหมือนสูตรอาหารที่แอดมินหยิบมาฝากในวันนี้อย่าง “เบนโตะผักและผลไม้” เซ็ตอาหารและของว่างสำหรับน้องหนู ที่รวมสารพัดผักผลไม้ในรูปแบบที่น่ารักปุ๊กปิ๊ก ที่ดึงดูดใจและชวนเจ้าตัวจิ๋วให้อยากรับประทานสุดๆ แอดมินเชื่อว่าเหล่าผู้ปกครองกำลังรอจดสูตรกันอยู่ใช่ไหมคะ? ไปค่ะ ตามแอดมินมาจดสูตรการเตรียมเมนู “เบนโตะผักและผลไม้” กันได้เลย!

>>ช็อปวัตถุดิบเมนูเบนโตะผักและผลไม้<<

>>Shop Ingredients for Fruit and Veggie Bento<<

วัตถุดิบ

1. ขนมปังโฮลวีท 2 แผ่น

2. มายช้อยส์ กูร์เมต์แฮม 150 กรัม

3. ไข่ต้ม 1 ฟอง

4. มายช้อยส์ สลัดมิกซ์ 100 กรัม

5. แคร์รอต 1 หัว

6. มายช้อยส์ มะเขือเทศเชอร์รีสีแดง 250 กรัม

7. แตงกวา 1 ผล

8. มะกอกดำไร้เม็ดในน้ำเกลือ 100 กรัม

9. ชีสเชดดาร์ 1 แผ่น

10. มายช้อยส์ สาหร่ายห่อข้าว 1 แผ่น

11. สตรอว์เบอร์รีเกาหลี 1-2 ผล

12. บลูเบอร์รี 7-8 ผล

>>ช็อปวัตถุดิบเมนูเบนโตะผักและผลไม้<<

>>Shop Ingredients for Fruit and Veggie Bento<<

วิธีทำ

1. เราจะมาเริ่มทำแซนวิชกันก่อน โดยนำแม่พิมพ์กดขนมปังรูปหมีมากดลงบนขนมปังโฮลวีท ให้ขึ้นรูปตามที่ต้องการเป็นจำนวน 2 แผ่น จากนั้นนำมายช้อยส์ กูร์เมต์แฮม มาวางลงบนขนมปังโฮลวีท ตามด้วยแตงกวาหั่นชิ้น แล้วประกบด้วยขนมปังโฮลวีทที่เตรียมไว้อีกแผ่น

2. นำมายช้อยส์ สลัดมิกซ์มาจัดวางลงบนกล่องเบนโตะ จากนั้นนำแซนวิชที่ทำเตรียมไว้มาวางลงบนกล่องเบนโตะอีกชั้น

3. นำแคร์รอตมาหั่นฝานเป็นชิ้นบางๆ 2-3 ชิ้น และหั่นมายช้อยส์ สาหร่ายห่อข้าว เป็นเส้นๆ ฝอยๆ จำนวนเล็กน้อย จากนั้นนำมาตกแต่งไข่ต้มให้มีลักษณะคล้ายผึ้งน้อย แล้วนำไปจัดวางลงในกล่องเบนโตะ

4. จัดวางมายช้อยส์ มะเขือเทศเชอร์รีสีแดง ลงในกล่องเบนโตะจำนวน 4-5 ผล จากนั้นนำถ้วยจีบกระดาษแยกส่วนเตรียมผลไม้วางไว้ในกล่องเบนโตะ ตามด้วยการจัดเตรียมสตรอว์เบอร์รี 1-2 ผล และบลูเบอร์รี 7-8 ผลลงในถ้วยกระดาษ เพียงเท่านั้นก็เป็นอันเสร็จ ปิดฝาแพคใส่กระเป๋าน้องๆ ไว้ทานในช่วงเบรคที่โรงเรียน อาจจะเตรียมน้ำส้มเย็นๆ อีกสักขวดไว้ทานร่วมด้วย ก็อร่อยสดชื่นฉ่ำใจไปอีกขั้นค่ะ

ท็อปส์ พิกส์ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้น้องตัวจิ๋วทานผักด้วยความเต็มใจ ถ้าคุณผู้ปกครองบ้านไหนยังไม่รู้จะเริ่มต้นให้น้องๆ ทานผักจากตรงไหน มาเริ่มต้นด้วยกันที่ท็อปส์ ทุกสาขาใกล้บ้านได้เลยค่ะ หรือถ้าคุณผู้ปกครองท่านไหนไม่ว่างมาช็อปที่หน้าร้าน ท็อปส์ก็มีบริการช็อปผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน ได้ตลอด 24 ชม. รับรองว่าได้สินค้ามีคุณภาพ สดใหม่ ตรงปก เหมือนมาช็อปที่หน้าร้านเองอย่างแน่นอนค่ะ แถมท็อปส์ ออนไลน์ยังมีบริการจัดส่งด่วนทันใจฉับไวสุดๆ ภายใน 1 ชม. สด เร็ว ดีแบบนี้ไม่ช็อปไม่ได้แล้วนะคะทุกคน ไปค่ะ ไปช็อปเลย!

>>ช็อปผักผลไม้สดใหม่ให้น้องตัวจิ๋ว<<