สาระน่ารู้คู่ ซูชิ สุดยอดเมนูฮิตแห่งแดนอาทิตย์อุทัย
หากเอ่ยถึงองค์ประกอบสำคัญของอาหาร นอกเหนือจากรสชาติอร่อย กลิ่นหอมหวล รูปร่างหน้าตาชวนน่ารับประทาน สิ่งสำคัญทำให้อาหารแต่ละชนิดบนโลกใบนี้แตกต่างและมีเสน่ห์คือศาสตร์และศิลป์ในรูปของกรรมวิธีการทำสุดละเมียดละไม ตลอดจนประวัติศาสตร์เรื่องราวต่างๆ ค่ะ อาหารญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในอาหารที่มีคุณสมบัติเหล่านั้นครบถ้วนและยังเป็นที่ยอมรับว่าโดดเด่นอย่างแท้จริง เนื่องด้วยวันที่ 18 มิถุนายนนี้ เป็นวันซูชิสากล แอดมินจะมาพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับ “ศาสตร์และศิลป์ของซูชิ” อาหารที่เป็นดั่งตัวแทนของดินแดนอาทิตย์อุทัย พร้อมพกสูตรทำเมนูซูชิเด็ดๆ มาฝากเพื่อนๆ กันด้วย มาโลดแล่นไปกับเรื่องราวน่ารู้คู่ครัวกับแอดมินเลยค่า
Important food elements that distinguish each cuisine consist of science and art in a form of elaborate processes as well as the history behind aside from a divine taste, a heavenly fragrance, and a gorgeously inviting appearance. With perfectly complete properties, Japanese food is truly accepted. To celebrate International Sushi Day on 18 July, join us in exploring the science and art of sushi, a traditional type of Japanese food which represents the land of the rising sun. Also, get ready for a free sushi recipe giveaway.
5 เกร็ดประวัติศาสตร์น่ารู้ของซูชิที่อาจไม่รู้มาก่อน
5 Historical Facts about Sushi You Didn’t Know
ต้นกำเนิดซูชิญี่ปุ่นมาจากภูมิปัญญาการทำ “ปลาส้ม”
Japanese sushi originated from the wisdom of making “pickled fish”
แม้ซูชิจะอยู่คู่กับวัฒนธรรมญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน แต่รู้หรือไม่คะว่าจริงๆ แล้วต้นกำเนิดของซูชิไม่ได้เกิดขี้นที่เกาะญี่ปุ่น แต่ไกลออกไปถึงแถบเอเชียอุษาคเนย์ และมีข้อมูลทางประวัติศาสตร์สนับสนุนอีกว่า ต้นแบบของซูชิอาจมาจากภูมิปัญญาการทำ “ปลาส้ม” หรือ “ปลาร้า” ของผู้คนลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นวิธีการถนอมอาหารไม่ให้เน่าเสีย อันแพร่หลายในประเทศ ลาว พม่า กัมพูชา และไทยมาเป็นเวลานานกว่า 2,000 ปี จากนั้นจึงเผยแพร่ใน
จีนแผ่นดินใหญ่ และญี่ปุ่นโดยเรียกกันว่า “นาเระซูชิ” (Narezushi) ทำจากปลาหมักเกลือและข้าวในถังเป็นระยะเวลายาวนาน 6 เดือน ถึง 3 ปี จนเกิดกลิ่นและรสชาติฉุนรุนแรงมากค่ะ
Though sushi has long been in Japanese culture, did you know it did not originate in Japan but actually in Southeast Asia? In addition, there is historical information supporting the fact that sushi might have originated from the wisdom of making “pickled fish” for people living in the Mekong River Basin. This food preservation method has been widely practiced in several countries including Laos, Myanmar, Cambodia, and Thailand for over 2,000 years. Later it was introduced the Mainland China and Japan where the pickled fish is called “Narezushi” made with fish fermented with salt and rice in wooden barrels from 6 months up to 3 years until yielding that strong taste and smell.
ข้าวไม่ใช่ส่วนจำเป็น
Rice is not the essential part
แต่ดั้งเดิมการทำนาเระซูชิเป็นเพียงวิธีการถนอมอาหารรูปแบบหนึ่งและยังไม่ถือว่าเป็นซูชิแบบปัจจุบัน เพราะชาวญี่ปุ่นจะนิยมทิ้งส่วนที่เป็นข้าวปั้นและทานเฉพาะส่วนที่เป็นปลาหมักเท่านั้น เหตุผลก็คือข้าวถูกใช้เป็นสิ่งทำให้เนื้อปลาหมักยึดเกาะและไม่เสียรูปทรงเท่านั้น และยังช่วยป้องกันไม่ให้แมลงวันมาตอมอีกด้วยค่ะ ด้วยกรรมวิธีที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน นาเระซูชิจึงเป็นอาหารราคาแพงที่สงวนไว้สำหรับผู้มีเงินทองและชนชั้นสูงค่ะ
Initially, the making of Narezushi used to be only a means of food preservation. It was not regarded as a type of sushi as today since the Japanese tend to discard the rice and relish only the picked fish. The reasons are that rice is merely something for the fish to hold on to in order to maintain its shape and also keeps flies away. The complicated yet time-consuming process consequently makes Narezushi high in price and reserved for the rich and the noble.
ซูชิกลายมาเป็นอาหารจานด่วนเมื่อไหร่
When has sushi become a quick meal?
ในสมัยเอโดะ (Edo Period) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1603-1868 ได้เริ่มมีการคิดค้นสูตรทำซูชิใหม่ๆ ที่ต่อยอดมาจากนาเระซูชิ เพื่อย่นเวลายาวนานและวิธีการซับซ้อน จึงทำให้เกิด “ฮายะซูชิ” (Hayazushi) แปลว่า “ซูชิแบบเร็ว” (Fast Sushi) ทำจากข้าวหมักน้ำส้มสายชูให้มีรสเปรี้ยวและโปะหน้าด้วยเนื้อปลาหมักด้านบน วิธีการนี้สามารถประหยัดเวลาการทำซูชิดั้งเดิมได้อย่างมาก เพียงหมักแค่ครึ่งวันถึงหนึ่งวัน (เมื่อเทียบกับสูตรดั้งเดิมที่ใช้เวลาสูงสุดถึง 3 ปี) ก็สามารถทานซูชิได้แล้วค่ะ
During the Edo period (1603-1868), new sushi recipes were initiated based on Narezushi. To reduce the time and complex process, Hayazushi or fast sushi was developed. The quick type of sushi is made from vinegared rice with fish fermented for half a day to one day. In comparison to the traditional recipe that takes up to 3 years, modern-day sushi saves a considerable amount of time for people to get to enjoy sushi.
ใครคือผู้คิดค้นสูตรทำซูชิปลาดิบยุคใหม่? Who invented the new era sushi recipe?
ถึงซูชิจะไม่ใช่อาหารที่ถือกำเนิดในประเทศญี่ปุ่นดั้งเดิม แต่ชาวญี่ปุ่นก็เป็นผู้นำสูตรอาหารจากแดนไกลนี้มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับประเทศของตัวเองได้อย่างน่าเหลือเชื่อ สำหรับซูชิที่หน้าตาใกล้เคียงกับปัจจุบันมากที่สุดนิยมเรียกว่า “นิกิริซูชิ” (Nigirizushi) แปลว่า “ซูชิปั้นด้วยมือ’ ซูชิประเภทนี้จะแตกต่างจากซูชิยุคแรกด้วยการนำข้าวญี่ปุ่นไปคลุกน้ำส้มสายชู จากนั้นปั้นเป็นก้อนและวางเนื้อปลาดิบด้านบน เชื่อกันว่าผู้คิดค้นสูตรทำนิกิริซูชิคนแรกในญี่ปุ่นคือ “ฮานายะโยเฮ” (Hanaya Yohei) เชฟทำซูชิ ราวปี ค.ศ. 1820 เกิดจากแนวคิดที่อยากคงความสดใหม่ของเนื้อปลาไว้ในยุคก่อนที่จะมีตู้เย็น จุดเด่นของนิกิริซูชิอยู่ที่การรักษาสมดุลระหว่างข้าวปั้นและชิ้นปลาซึ่งต้องอาศัยทักษะและความชำนาญอย่างมากกว่าจะได้นิกิริซูชิสมบูรณ์แบบ
Despite the fact that sushi was not originally from Japan, the Japanese developed and applied the recipe from faraway lands to unbelievably suit their country. As for today’s most similar-looking sushi, Nigirizushi literally means two fingers referring to the way the chef makes the sushi using two fingers. This style of sushi differs from traditional sushi in that vinegared rice is shaped and topped with raw fish. Around 1820, Hanaya Yohei, a sushi chef, was believed to be the first person in Japan who invented the Nigirizushi recipe from the notion of maintaining the freshness of fish before refrigerators existed. Perfect Nigiri stands out for its fantastic balance between the rice and the fish which quintessentially requires skills and expertise.
เมื่อซูชิก้าวไปไกลสู่ระดับโลก
When sushi has become world-renowned
ไม่ว่าจะยุครุ่งเรืองหรือผ่านสมรภูมิสงคราม ชาวญี่ปุ่นก็ยังคงยกย่องให้ซูชิเป็นหนึ่งในอาหารประจำชาติที่สำคัญต่อชีวิตและเป็นดั่งสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ซูชิกลายเป็นอาหารที่พบได้ในชีวิตประจำวันทั่วไป และพัฒนาตั้งแต่ร้านซูชิข้างถนน บาร์ซูชิ ซูชิสายสะพาน ไปจนถึงภัตตาคารซูชิหรูหรา นอกจากนั้นสูตรการทำซูชิยังแพร่หลายไปยังต่างประเทศ เช่น ในสหรัฐอเมริกา และเกิดการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมจนเกิดเป็นสูตรซูชิชื่อดังอย่าง “แคลิฟอร์เนียโรล” (California Rolls) ปัจจุบันซูชิยังคงได้รับความนิยมทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยที่พิสูจน์ว่ากระแสอาหารญี่ปุ่นฟีเวอร์มีบทบาทต่อวิถีชีวิตคนไทย เห็นได้จากจำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นมากมาย รวมถึงร้านซูชิที่กลายมาเป็นอาหารจานด่วนเช่นเดียวกันค่ะ
Either in the prosperous era or the war period, the Japanese regard sushi as one of the national dishes which is essential to life and a cultural symbol. Since the Second World War, sushi has become a type of food generally seen in daily life at street sushi shops, conveyor belt sushi restaurants or high-end sushi eateries. Apart from that, different sushi recipes have been introduced to foreign countries such as America where a cultural exchange took place and the famous “California Rolls” recipe was born. In the present day, sushi continues to receive worldwide popularity including in Thailand. It is evident that the trend of Japanese cuisine plays such a crucial role in the Thai way of life judging from an increasing number of Japanese restaurants as well as fast food sushi places.
รู้จักซูชิชนิดต่างๆ ในอาหารญี่ปุ่น
Common Types of Sushi in Japanese Cuisine
นาเระซูชิ
Narezushi
ต้นแบบซูชิที่เก่าแก่ที่สุด เชื่อว่าพัฒนามาจากวิธีการถนอมอาหารของชาวจีนและชาวเอเชียอุษาคเนย์ ทำจากเนื้อปลาผ่านการหมักดองด้วยเกลือและข้าว อัดในถังไม้และทับด้วยแผ่นหินยาวนาน 6 เดือน ถึง 3 ปี มีกลิ่นและรสเหม็นฉุน ด้วยกรรมวิธีเฉพาะตัวจึงทำให้ซูชิประเภทนี้หาทานค่อนข้างยากและมีราคาแพง มักทานเฉพาะส่วนเนื้อปลาเท่านั้น
Narezushi, the most primitive form of sushi, is believed to develop from the attempt to preserve food of people in China and Southeast Asia. This type of sushi consists of fish fermented with salt and rice stored in wooden barrels and buried under pickling stones from 6 months up to 3 years until giving off a pungent smell. The specific preservation process makes Narezushi rare to find and expensive today. Only the fermented fish meat is usually savored.
นิกิริซูชิ
Nigirizushi
หนึ่งในซูชิที่ได้รับความนิยมและแพร่หลายทั่วไป นิกิริซูชิมีส่วนประกอบทำจากข้าวผสมน้ำส้มสายชู ปั้นเป็นก้อนและโปะหน้าด้วยเนื้อปลาแล่ด้านบน จุดเด่นของซูชิประเภทนี้คือความสมดุลระหว่างข้าวและเนื้อปลาเพื่อทำให้เกิดรสชาติดีที่สุด
A popular type of sushi, Nigirizushi is made with a hand-formed mound of vinegared rice and a thin slice of fish on top. The highlight of this style of sushi is a balance between the sushi rice and the fish which yields the best flavor.
โอชิซูชิ
Oshizushi
สูตรซูชิดั้งเดิมของชาวคันไซ ทางภาคกลางตอนใต้ของญี่ปุ่น แตกต่างจากนิกิริซูชิตรงวิธีการทำข้าว โอชิซูชิจะทำจากข้าวและปลาดิบผ่านการกดทับให้แน่นในกล่อง ก่อนจะนำมาตัดแบ่งเป็นแท่งสี่เหลี่ยมพอดีคำ
Native to the Kansai people in the southern-central region of Japan, Oshizushi is different from Nigirizushi in how to make rice. Known as pressed or box sushi, this type of sushi incorporates sushi rice with raw fish on top firmly pressed in a traditional wooden box before being cut into bite-sized rectangular pieces.
กุนคันมากิ
Gunkanmaki
จุดเริ่มต้นของซูชิสูตรนี้เกิดจากความคิดอยากทดลองนำวัตถุดิบใหม่ๆ มาใช้ทำซูชิ เช่น ไข่กุ้ง หรือ อิคุระ (Ikura) และ ไข่หอยเม่น หรือ อูนิ (Uni) ซึ่งไม่เกาะเป็นก้อน จึงต้องนำแผ่นสาหร่ายโนริมาห่อหุ้มข้าวไว้ คำว่ากุนคันในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “เรือรบ” มาจากลักษณะของซูชิที่ดูละม้ายคล้ายกับเรือรบนั่นเอง
The beginning of Gunkanmaki is the notion of experimenting with new sushi ingredients. From shrimp roe (Ebiko), salmon roe (Ikura) to sea urchin roe (Uni), these ingredients are not compact and this form of sushi needs to be wrapped with a sheet of nori seaweed. The Japanese word “gunkan” means battleship due to its oval shape looking similar to a boat.
เตมากิซูชิ
Temakizushi
รู้จักอีกชื่อหนึ่งคือ “แฮนด์โรลซูชิ” (Hand Roll Sushi) เพราะรูปทรงซูชิที่มีลักษณะคล้ายทรงกรวย ทำให้สามารถถือทานได้อย่างสะดวก ภายนอกห่อหุ้มด้วยสาหร่ายโนริและด้านในเป็นไส้ซูชิชนิดต่างๆ เป็นหนึ่งในซูชิที่ได้รับความนิยมสูง
Temakizushi, also known as hand roll sushi, is described as a widely-popular conelike sushi making it easier to hold while eating, wrapped with nori seaweed and various fillings.
อินาริซูชิ Inarizushi
ซูชิยัดไส้ ห่อหุ้มด้วยเต้าหู้ทอดมีลักษณะคล้ายถุง ภายในเป็นข้าวปั้นปรุงรสด้วยส่วนผสมต่างๆ เชื่อกันว่ามีที่มาจากตำนานเทพ “อินาริ” ของญี่ปุ่นซึ่งโปรดปรานเต้าหู้ทอด
Inarizushi can be regarded as deep-fried tofu pockets filled with seasoned sushi rice. It is thought to originate from the Japanese myth of Inari God who favored the deep-fried tofu.
ชิราชิซูชิ
Chirashizushi
ซูชิที่ไม่ต้องปั้นข้าว แต่เป็นการนำข้าวหมักน้ำส้มสายชูมาใส่ในถ้วยและโปะหน้าด้วยปลาดิบหั่นเป็นชิ้นเต๋า ไข่หวาน และผักต่างๆ ตามใจชอบ ความพิเศษของชิราชิซูชิอยู่ตรงท็อปปิ้งซึ่งมีให้เลือกหลากหลายตามแต่ละท้องถิ่น
Chirashizushi is literally known as scattered sushi featuring a bowl of vinegar rice topped with cubed raw fish, sweet rolled omelet, and your favorite vegetables. A broad variety of toppings available in different regions of Japan make this type of sushi special
มากิซูชิ
Makizushi
ซูชิชนิดนี้เป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมญี่ปุ่นและวัฒนธรรมตะวันตกเข้าไว้ด้วยกัน เชื่อว่าสูตรทำมากิซูชิเกิดจากการพัฒนาให้ถูกปากชาวอเมริกัน จุดเด่นคือลักษณะซูชิที่ผ่านการม้วนด้วยมือบนมูลี่ไม้ไผ่ จากนั้นจึงตัดเป็นชิ้นพอดีคำ มากิซูชิยอดนิยมคือ “แคลิฟอร์เนีย โรล” (California Roll)
The flawless East-meets-West combination, Makizushi is believed to be developed and adjusted to suit the American taste. The highlight lies upon the hand roll technique over the bamboo sushi rolling mat. Subsequently, the sushi is cut into bite-sized pieces. A well-known example of Makizushi includes California Roll.
ทานซูชิอย่างไรให้อร่อย
The Right Way to Eat Sushi
ชาวญี่ปุ่นเป็นผู้พิถีพิถันในเรื่องศาสตร์และศิลป์ของการทานอาหารอย่างมาก สังเกตได้จากพิธีหรือธรรมเนียมต่างๆ เวลาทานอาหาร ซูชิที่นับว่าเป็นหนึ่งในอาหารคู่วัฒนธรรมญี่ปุ่นมาอย่างยาวนานจึงมีข้อปฏิบัติที่เป็นดั่งมารยาททางสังคมเช่นเดียวกันค่ะ ปัจจุบันในประเทศญี่ปุ่น มีร้านซูชิมากมายหลายแบบและหลายระดับ ตั้งแต่ ร้านซูชิข้างทาง ร้านซูชิแบบสายสะพาน จนถึง ภัตตาคารซูชิหรูหรา แอดมินจะมานำเสนอ “วิธีทานซูชิ” ฉบับพื้นฐาน ที่ยึดถือในสังคมญี่ปุ่น จะมีอะไรบ้างมาชมกันเลยค่ะ
The Japanese meticulously perfect the science and art of eating witnessed from food rituals or traditions. Sushi is considered one of the oldest Japanese foods and therefore the rules of etiquette have been set in Japanese culture. There are nowadays a large number of sushi restaurants varying in styles and levels from street sushi shops, conveyor belt sushi restaurants to lavish sushi eateries. Here is the fundamental guide to eating sushi the correct way in Japanese society.
ใช้ซอสโชยุและวาซาบิอย่างพอดี
Using soya sauce and wasabi
เมื่อซูชิพร้อมเสิร์ฟ ผู้ทานสามารถเติมซอสโชยุ (Shoyu) หรือซอสถั่วเหลือง ในภาชนะที่ทางร้านเตรียมไว้ และไม่ควรจุ่มซูชิในซอสโชยุในปริมาณมากเกินไป เพราะเป็นการดูหมิ่นฝีมือ “อิตามาเอะ” (Itamae) หรือเชฟผู้ทำซูชิอีกด้วยค่ะ
Once the sushi is served, you can add shoyu or soya sauce from a small bowl provided. It should not be completely dipped into the sauce as it could be implied as an insult to the sushi chef called Itamae in Japanese.
ใช้มือทานซูชิแทนตะเกียบ
Replacing chopsticks with hands
ตามธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่น ซูชิควรใช้มือทานและไม่นิยมใช้ตะเกียบ (เว้นกรณีที่เป็นชิราชิซูชิ หรือข้าวหน้าปลาดิบ และซาชิมิ อนุโลมให้ใช้ตะเกียบได้) หากมือรู้สึกว่ามือเลอะ สามารถใช้ผ้าเย็น หรือ “โอชิโบริ” (Oshibori) ที่ทางร้านมักเตรียมไว้ให้ได้เพื่อสุขอนามัย และไม่ควรถูตะเกียบระหว่างการทาน และไม่ควรอย่างยิ่งที่จะปักตะเกียบลงบนซูชิเด็ดขาด เพราะถือเป็นสัญลักษณ์ของอาหารเซ่นไหว้ให้ผู้เสียชีวิตค่ะ
According to the Japanese tradition, sushi is commonly savored with your hands rather than chopsticks, except for eating Chirashizushi or sashimi. You may use a wet towel or Oshibori provided to clean your fingers. In addition, rubbing the chopsticks while eating and sticking them onto pieces of sushi must be strictly avoided as it symbolizes food offering to the deceased.
คว่ำซูชิก่อนจุ่มซอสโชยุ
Flipping sushi over before dipping into soya sauce
เวลาทานซูชิ ไม่ควรจุ่มซูชิทั้งชิ้นลงไปในซอสโชยุ แต่ควรจุ่มซูชิลงในซอสโชยุในลักษณะแบบคว่ำลง ให้เนื้อปลาแตะซอสโชยุเพียงเล็กน้อยเท่านั้นและไม่ให้สัมผัสกับตัวข้าวปั้น เพราะอาจทำให้สูญเสียรสชาติแท้จริงค่ะ
ควรทานซูชิที่ทำเสร็จใหม่ในทันที
Enjoying freshly-made sushi right away
ซูชิเป็นอาหารที่ต้องอาศัยฝีมือและความชำนาญ รวมถึงวัตถุดิบสดใหม่มีคุณภาพ เพื่อทำให้ดื่มด่ำกับรสชาติได้อย่างครบทุกมิติ ควรทานซูชิที่เพิ่งทำเสร็จทันที และควรทานให้หมดภายในคำเดียว หากปล่อยทิ้งไว้นาน ซูชิอาจมีรสชาติเปลี่ยนไปเนื่องจากอุณหภูมิและความชื้นค่ะ
หลังเรียนรู้เรื่องราวของศิลปะแห่งซูชิกันไปแล้ว คงรู้สึกอยากลิ้มลองเมนูซูชิกันใช่ไหมคะ? แน่นอนว่าแอดมินต้องพกสูตรทำอาหารเมนูเด็ดมาฝากเพื่อนๆ ชาว ท็อปส์ พิกส์กันอยู่แล้ว ครั้งนี้มาในธีมญี่ปุุ๊นญี่ปุ่นกับ “ซูชิโรลทอด” แตกต่างด้วยสัมผัสกรุบกรอบจากแป้งเทมปุระด้านนอก แต่อัดแน่นด้วยเครื่องด้านในเน้นๆขอบอกว่าทำไม่ยากและอร่อยไม่แพ้ทานที่ร้านอาหารเลย! มาค่ะถึงเวลาเข้าครัวกันแล้ว ตามไปช็อปส่วนผสมและลงมือทำกันเล้ย!
Have we made your mouth water by the art of sushi? As usual, we have a Japanese recipe giveaway for all Tops Picks fans and that is “deep-fried sushi rolls” with the crispy texture on the outside from tempura batter yet the jam-packed scrumptious ingredients on the inside. Easy to make and delightfully palatable with restaurant-quality! Time to join us in the kitchen, find out about the ingredients needed, and get cooking.
วัตถุดิบ
Ingredients
1. ข้าวญี่ปุ่น หุงสุก 150 กรัม Sushi Rice 150 gm.
2. สาหร่ายแผ่น 1 แผ่น / 1 Nori Sheet
3. หน่อไม้ฝรั่ง 5 ต้น / 5 Asparagus
4. ไข่ปลา / Masago
5. ปลาแซลมอนแล่ / Salmon fillet
6. แป้งเทมปุระ / Tempura Batter
7. เกล็ดขนมปัง / Panko
8. วาซาบิ / Wasabi
9. ขิงดอง / Pickled Ginger
10. โชยุ / Soya Sauce
วิธีทำ
Instructions
1. แล่เนื้อปลาแซลมอนเป็นทางยาวและจัดเรียงไว้บนจาน
Slice salmon fillet into a long strip and set aside on a plate.
2. วางแผ่นสาหร่ายลงบนมู่ลี่ไม้ไผ่ ตักข้าวญี่ปุ่นลงบนสาหร่าย เกลี่ยข้าวด้วยนิ้วเบาๆ ให้มีขนาดหนาประมาณ 0.5 ซม. จากนั้นกลับด้านแผ่นสาหร่ายโดยเอาด้านล่างลง
Place a sheet of seaweed on a bamboo mat. Gently spread a 0.5 cm thick layer of rice over the seaweed using your fingers. Then flip the sheet of seaweed with rice over.
4. วางหน่อไม้ฝรั่ง ให้ห่างจากขอบประมาณ 1 ซม. ใช้ช้อนตักไข่ปลามาซาโกะ จากนั้นค่อยๆ โรยบนหน่อไม้ฝรั่ง วางเนื้อปลาแซลมอนแล่บนหน่อไม้ฝรั่งและไข่ปลา
Lay asparagus sticks about 1 cm in from the edge. Sprinkle Masago roe on top of the asparaguses.
5. ค่อยๆ ม้วนให้เป็นแท่งกลม กดไว้ให้แน่นประมาณ 30 วินาที แล้วคลี่มูลี่ออก
Slowly curl the bamboo mat and roll it into a tube. Firmly press it for 30 seconds and loosen the mat.
7. จุ่มซูชิโรลลงบนแป้งเทมปุระที่ละลายน้ำแล้ว รวมทั้งปลายทั้ง 2 ด้าน ให้แป้งเทมปุระเคลือบทั่วโรล จากนั้นนำโรลไปม้วนในจานเกล็ดขนมปัง ให้เกล็ดขนมปังติดให้ทั่ว
For a crispy coating, dip the whole sushi roll into tempura batter including both ends. Then roll it across the plate of panko bread crumbs for even coverage.
8. เทน้ำมันใส่กระทะ แล้วนำซูชิโรลชุบแป้งเทมปุระและเกล็ดขนมปังลงไปทอด จนเหลืองกรอบ แล้วตักขึ้นมา ซับน้ำมันเล็กน้อย พักให้เย็น
Pour the oil into a pan. Deep fry the roll until golden brown. Then remove it and place it onto a napkin to allow the excess oil to be absorbed.
9. ตัดซูชิโรลทอดให้มีขนาดชิ้นพอดีคำ ความหนาประมาณ 1.5 ซม. จัดเสิร์ฟพร้อมวาซาบิ ขิงดอง และโชยุ
Cut the crispy roll into bite-size of approximately 1.5 cm segment. Dish up for serving alongside wasabi, pickled ginger, and soya sauce.
“ทานแล้วนะค่า” ! อื้มมม อร่อยมาก แอดมินต้องยอมรับจริงๆ ค่ะว่าสูตรทำซูชิโรลทอดสุดพิเศษจาก ท็อปส์ พิกส์นี้ทั้งอร่อยและทำง่ายสุดๆ แถมหน้าตายังดูดีไม่ต่างจากที่ร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นนำเลย เหมาะกับทำทานที่บ้านเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศอาหารแบบเดิมๆ หรือเติมความฟินให้กับเมนูอาหารญี่ปุ่นอื่นๆ ก็ดีงามไม่แพ้กันค่ะ
“Itadakimasu” Very delicious! Our recipe is very simple to make, looks delightfully palatable, and perfect to be another homemade special. Turn an ordinary ambiance into an extraordinary one with deep-fried sushi rolls or other divine Japanese dishes.
ถ้าหากเพื่อนๆ กำลังมองหาวัตถุดิบทำเมนูนี้หรือสินค้านำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ที่ท็อปส์ เรามีสินค้ามากมายหลายรายการส่งตรงจากแดนอาทิตย์อุทัย มามัดรวมไว้ให้เพื่อนๆ ได้เลือกช็อปอย่างจุใจกันไปเลยค่ะ แถมยังมีโปรโมชั่นดีๆ อีกมากมายทั้งที่หน้าร้านและช่องทางออนไลน์และแอปพลิเคชันอีกด้วย รู้แบบนี้ต้องตามไปช็อปกันหน่อยแล้ว ครั้งนี้แอดมินต้องขอตัวลาไปอิ่มอร่อยกับเมนูนี้ก่อน ครั้งหน้าจะเป็นอะไรต้องติดตามกันให้ได้นะคะ แล้วพบกันสัปดาห์หน้าค่า !
Looking for ingredients for this menu or a wide array of Japanese-made products? Explore our range of goods directly imported from Japan available for your selection alongside unmissable promotions at Tops store near you, Tops Online website, and application. Allow us to savor these scrumptious sushi rolls and stay tuned for next week’s fun facts and recipe. Mata raishū!
Comments