top of page
Branding_100[Jun2023]-03.jpg

มัดรวม 8 ขนมหวานไทยทำจากใบเตย

ขนมไทยรสหวานเอยหวานใจที่มักใช้วัตถุดิบหลัก 3 อย่างในการรังสรรค์ขึ้นมาอันประกอบไปด้วยแป้ง กะทิ และน้ำตาล ซึ่งอาจจะมีการเพิ่มเติมส่วนผสมอื่นๆ ลงไปด้วยตามแต่ละเมนู และแน่นอนว่า “ใบเตย” เป็นหนึ่งในส่วนผสมยอดนิยมที่มักนำมาใช้สำหรับสร้างสีสันและกลิ่นหอมให้กับขนมไทยน่ารับประทานยิ่งขึ้น ปัจจุบันนี้เพื่อนๆ ก็พบเห็นเมนูขนมไทยมากมายที่มีส่วนผสมของใบเตย และวันนี้ท็อปส์ พิกส์ได้รวบรวมที่สุดของขนมไทยผสมใบเตยมาฝากเพื่อนๆ กันถึง 8 อย่างด้วยกัน ตามแอดมินไปชมกันค่ะว่าขนมไทยจากใบเตย กลิ่นหอมมันรสหวานละมุนจะมีเมนูอะไรกันบ้าง ไปชมกันเลย!



อินทนิลใบเตย


ขนมไทยโบราณที่ลักษณะคล้ายกับบัวลอยแต่มีขนาดที่ใหญ่กว่า ให้เนื้อสัมผัสเหนียวนุ่มที่ทำจากแป้งมันสำปะหลัง กวนในกระทะทองเหลืองจึงได้แป้งที่เหนียวหนึบ จากนั้นนำไปเคี่ยวกับน้ำใบเตยเพื่อให้แป้งมีสีเขียวสวยน่าทาน เสิร์ฟพร้อมกับน้ำเชื่อมผสมน้ำกะทิรสหอมหวานมันกลมกล่อม กินคู่กันแล้วได้สัมผัสหนึบหนับ และรสชาติหอมหวานมันกำลังดีในคำเดียวค่ะ


หยกมณี


ขนมสีเขียวใสก้อนกลมๆ มักใช้ในงานมงคลหรือในพิธีการต่างๆ ทำมาจากสาคูเม็ดเล็กนำไปเคี่ยวในน้ำใบเตยเพื่อให้ได้สีที่สวยงามและน่ารับประทาน ปรุงรสด้วยน้ำตาลเพิ่มความหวาน แล้วจับเป็นก้อนในขนาดพอดีคำ ก่อนนำไปคลุกด้วยมะพร้าวขูดฝอย พร้อมเสิร์ฟรับประทานความหวานอันแสนอร่อยจนใครๆ ก็วางไม่ลงเลยทีเดียวค่ะ


วุ้นกรอบใบเตย


ขนมทานเล่นกรุบกริบที่มีลักษณะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ทำมาจากผงวุ้น น้ำตาลทราย และแป้งเท้ายายม่อมคลุกเคล้ารวมกัน แล้วเติมน้ำสกัดใบเตยผสมตามลงไปจนเนื้อวุ้นเซ็ตตัวเป็นวุ้นกรอบ ที่ให้สัมผัสกรอบนอกนุ่มใน เคี้ยวหนึบยิ่งกินยิ่งเพลินไปกับกลิ่นหอมหวานของใบเตย ที่มาพร้อมกับรสชาติหวานกำลังดี พอได้กินแล้วหยุดกินไม่ได้จริงๆ ค่ะ


เปียกปูนใบเตย


ขนมเนื้อเนียนนุ่มที่มาพร้อมกลิ่นหอมจากใบเตย ที่ส่วนใหญ่นั้นเรามักคุ้นตากับขนมเปียกปูนสีดำที่ทำจากกาบมะพร้าวเผาไฟมากกว่า แต่บอกเลยว่าเปียกปูนใบเตยนั้นก็เด็ดไม่แพ้กันค่ะ ถึงแม้ว่าเปียกปูนใบเตยจะพบเห็นได้น้อยมากในร้านขนมไทย แต่ถ้าใครได้ลองแล้วรับรองว่าจะติดใจค่ะ ซึ่งที่มาของชื่อขนมเปียกปูนก็มาจากการกวนแป้งหรือข้าวสุกจนมีลักษณะเหนียวข้นที่ เรียกว่า “เปียก” และใช้น้ำปูนใสผสมกับแป้งข้าวเจ้าเพื่อให้ขนมขึ้นรูปและจับตัวเป็นก้อนจึงเป็นที่มาของคำว่า “ปูน” นั่นเองค่ะ


ขนมถ้วยจีนใบเตย


ขนมโบราณที่หาทานได้ยากในสมัยนี้ ให้สัมผัสอันเหนียวนุ่มที่ได้จากแป้ง มาพร้อมกับสีเขียวจากน้ำสกัดจากใบเตยแสนน่าทาน ราดด้วยน้ำเชื่อมสีน้ำตาลลักษณะข้นเหนียวที่ช่วยชูรสชาติและกลิ่นของขนมให้อร่อยมากยิ่งขึ้น พร้อมโรยงาขาวคั่วกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เข้ากั๊นเข้ากันเป็นที่สุด หากใครยังไม่เคยทานเมนูนี้ แอดมินแนะนำว่าให้ลองหาทานกันดูนะคะ เพราะมันอร่อยสุดๆ ไปเลยค่ะ


ขนมดอกจอกใบเตย


ขนมกรุบกรอบที่มีลักษณะคล้ายดอกไม้บาน แต่งแต้มสีเขียวจากน้ำสกัดใบเตย หน้าตาสวยงามอลังการ เป็นขนมโบราณที่มีส่วนผสมหลักคือแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำตาลทรายขาว กะทิ ไข่ไก่ และน้ำปูนใสคลุกเคล้ารวมกัน แล้วนำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ โดยใช้แม่พิมพ์ทองเหลืองขึ้นรูปทำให้ได้ขนมดอกจอกที่สวยงามน่ารับประทาน กลิ่นหอมจากใบเตย ยิ่งกินยิ่งฟินยิ่งอร่อยค่ะ


ขนมชั้นใบเตย


เป็นอีกขนมที่พบเห็นบ่อยๆ ตามร้านขนมหวานไทย มีเนื้อสัมผัสเหนียวนุ่มหนึบนับ อบอวลไปด้วยรสหวานและกลิ่นหอมจากใบเตย ขนมชั้นเป็นหนึ่งในขนมมงคล ที่มีความเชื่อกันว่าใครได้ทานจะมีความก้าวหน้าทางหน้าที่การงาน โดยขนมชั้นสามารถกินได้ตามใจชอบทั้ง 2 แบบเลยนะคะ บางคนชอบกัดกินหลายชั้นรวมกัน แต่บางคนชอบดึงออกเป็นแผ่นแล้วกินทีละชั้น แล้วเพื่อนๆ ล่ะคะ ชอบกินแบบไหนกันเอ่ย?


ขนมฝักบัว


ขนมฝักบัว หรือขนมดอกบัว เป็นขนมพื้นบ้านที่คนภาคกลางเรียกกัน แต่ถ้าขนมชนิดนี้ไปอยู่ที่ภาคใต้จะมีชื่อว่า “จูจุ่น” นิยมนำมาใช้ในงานพิธีการต่างๆ เช่น งานแต่งงาน มีความหมายมงคลว่าความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า และเปี่ยมไปด้วยโชคลาภค่ะ แต่เดิมนั้นขนมฝักบัวนี้มีส่วนผสมหลักๆ คือแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลมะพร้าวหรือน้ำตาลปี๊บ และกะทิ แต่ในปัจจุบันมีการเพิ่มน้ำสกัดใบเตยลงไปเพื่อให้ได้สีสันที่สวยงาม และมีกลิ่นที่หอมหวานมากขึ้น อ่านแล้วเพื่อนๆ น้ำลายสอกันบ้างแล้วใช่ไหมคะ ถ้ามีโอกาสก็อย่าลืมไปหามาลองชิมกันน้า...


นำเสนอขนมไทยจากใบเตยทั้ง 8 เมนูกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อนๆ สนใจขนมชิ้นไหนเป็นพิเศษกันบ้างไหมคะ? จะใช่เมนูขนมที่มีส่วนผสมจากใบเตยที่แอดมินกำลังจะแจกสูตรหรือเปล่า? ถ้างั้นแอดมินขอเฉลยเลยแล้วกันค่ะว่าสูตรขนมไทยจากใบเตยที่หยิบมาแจกกันฟรีๆ เลยก็คือเมนู “อินทนิลใบเตย” ขนมไทยโบราณเนื้อหนุบหนับสีเขียวชอุ่มชุ่มไปด้วยน้ำเชื่อมและน้ำกะทิหวานมัน อร่อยถูกใจสายหวานอย่างแน่นอน ตามแอดมินไปชมกันค่ะว่าเมนู “อินทนิลใบเตย” จะต้องใช้วัตถุดิบอะไรบ้าง และวิธีการทำจะเหนือชั้นเหมือนกับขนมไทยโบราณจานอื่นหรือเปล่า ไปค้นหาคำตอบพร้อมกันเลยจ้า...



วัตถุดิบทำแป้งอินทนิล


1. แป้งมันสำปะหลัง 100 กรัม

2. น้ำใบเตย 500 มล.

3. น้ำตาลทรายขาว 100 กรัม


วัตถุดิบน้ำกะทิ


1. อัมพวา กะทิยูเอชที 250 มล.

2. สิงห์ น้ำดื่ม 500 มล.

3. น้ำตาลทรายขาว 200 กรัม

4. ปรุงทิพย์ เกลือป่น ½ ช้อนชา

5. ใบเตย 5 ใบ

6. เทียนอบขนม 1 อัน




วิธีทำ


1. เริ่มทำแป้งอินทนิลเป็นอันดับแรก โดยนำแป้งมันสำปะหลัง มาผสมรวมกับน้ำใบเตย แล้วนวดให้เข้ากัน จากนั้นพักแป้งไว้เป็นเวลา 30 นาที


2. ตั้งกระทะบนเตาไฟ ปรับไฟระดับเบา เทแป้งมันสำปะหลังผสมน้ำใบเตยลงในกระทะ กวนแป้งจนสุก โดยสังเกตว่าแป้งมีลักษณะสีเขียวใสและแป้งเนื้อเหนียวยิ่งขึ้น จากนั้นเติมน้ำตาลทรายขาว แล้วกวนต่ออีกครั้งให้เข้ากัน ปิดเตาไฟ ตักแป้งใส่ลงในภาชนะแล้ววางแป้งพักไว้ให้เย็นลง


3. ตั้งกระทะบนเตาไฟ ปรับไฟระดับปานกลาง เทน้ำเปล่าใส่ลงในหม้อ ตามด้วยใบเตย น้ำตาลทรายขาว และเกลือป่น จากนั้นเคี่ยวส่วนผสมให้เข้ากัน


4. ปรับเตาไฟเป็นระดับเบา ตักใบเตยออกจากกระทะ จากนั้นเทน้ำกะทิใส่ตามลงไป คนให้เข้าส่วนผสมเข้ากัน และปิดเตาไฟ นำเทียนอบขนมมาอังไว้ในกระทะ แล้วปิดฝาเพื่อรมควันเทียนให้น้ำกะทิมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน


5. ตักน้ำกะทิอบควันเทียนใส่ลงในภาชนะเสิร์ฟ ใช้มือชุบน้ำสะอาดแล้วหยิบตัวแป้งที่วางพักไว้ปั้นเป็นลูกกลมๆ ขนาดเท่าฝ่ามือตามปริมาณที่ต้องการใส่ลงในภาชนะเสิร์ฟ เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จพร้อมรับประทานความหอมหวานในแบบไทยๆ ได้เลยค่า...


เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับเมนูขนมไทยจากใบเตยที่แอดมินหยิบมาฝากเพื่อนๆ กันในสัปดาห์นี้ ยังไงเพื่อนๆ ก็ลองไปหาทานหรือหาทำกันเองได้นะคะ เพียงเริ่มต้นด้วยการมาช็อปวัตถุดิบที่ท็อปส์ และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ทุกสาขา หรือจะเลือกช็อปสะดวกง่ายได้ทุกที่ทุกเวลากับท็อปส์ ออนไลน์ก็ได้เช่นกันค่ะ จากนั้นก็ไปต่อกันที่ครัว เปิดสูตรหน้านี้พร้อมลงมือทำ เพียงเท่านี้เพื่อนๆ ก็จะได้โชว์สกิลทำขนมไทยอย่างสุดฝีมือภายในพริบตาค่ะ หากสุดสัปดาห์วันหยุดยาวนี้ยังว่างอยู่ ลองนำกิจกรรมทำครัวของท็อปส์ พิกส์ลงในตารางสักวันนะคะ ไว้พบกันใหม่สัปดาห์หน้า วันนี้แอดมินต้องขอลาไปก่อน สวัสดีค่า...


Kommentare


Branding_100[Jun2023]-02.jpg
shop anywhere.jpg
bottom of page