รู้จัก 6 ของหวานประจำเทศกาลคริสต์มาสยอดนิยมทั่วโลก
“แสงไฟพราวระยับประดับบนต้นสนสูงใหญ่ รายล้อมด้วยกล่องของขวัญหลากสีสัน กวางแรนเดียร์ ซานตาคลอส และ เสียงเพลงรื่นเริง…” อาจเป็นหนึ่งในบรรดาหลายสิ่งที่สัมผัสได้ในวัน “คริสต์มาส” (Christmas’s Day) เทศกาลส่งท้ายปีสุดพิเศษอันมีจุดเริ่มต้นจากวันสำคัญทางศาสนาของคริสต์ศาสนิกชน
ด้วยมนต์เสน่ห์และกลิ่นอายแห่งการเฉลิมฉลอง ทำให้วันคริสต์มาสกลายมาเป็นเทศกาลสากลที่ผู้คนทั่วโลกต่างรอคอย เพื่อเติมเต็มให้วันพิเศษเช่นนี้หอมหวลยิ่งขึ้น แอดมินรวบรวม “6 ของหวานประจำเทศกาลคริสต์มาส” จากทั่วทุกมุมโลกพร้อมเกร็ดประวัติศาสตร์น่ารู้มาฝากเพื่อนๆ ด้วยค่ะ ถ้าอยากรู้ว่ามีเมนูไหนโดนใจบ้าง ไปหาคำตอบพร้อมๆ กันเลยค่า
“Large Christmas tree decorated with glow light and ornaments, surrounded by piles of vibrant gift boxes, a herd of reindeers, and festive Christmas songs…” you can feel the air filled with joy and happiness on Christmas Day, a festival celebrated at the end of the year.
At the beginning, Christmas was recognized as an important Christian holy day. The miracle of this festive holiday has made Christmas a popular festival by people all around the world. To fill this special holiday with more joy and happiness, we’ve gathered “6 traditional Christmas treats” from all parts of the world with some interesting anecdotes for you. If you’re interested and wish to know more about Christmas Day, please follow us so that we can find out altogether.
พาเนตโทเน่
Panettone
โดดเด่นด้วยรูปทรงโดมสูงแปลกตา “พาเนตโทเน่” เป็นหนึ่งในเมนูคลาสสิกประจำโต๊ะอาหารวันคริสต์มาสของชาวอิตาเลียน เนื่องจากมีผลไม้เชื่อม ลูกเกด และ น้ำผึ้งเป็นส่วนผสม ทำให้มีรสชาติหอมหวานและเนื้อสัมผัสฟูนุ่ม เล่ากันว่าสูตรขนมหวานจานนี้มีจุดกำเนิดอยู่ที่กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี ก่อนจะได้รับความนิยมแพร่หลายทั่วทวีปยุโรป ขนมปังพาเนตโทเน่มักทานเป็นอาหารว่างคู่กับชาหรือกาแฟ และจะทานคู่กับ “มอสกาโต ดัสติ” (Moscato d’Asti) และ อัสติ สปูมานเต (Austi Spumante) ไวน์ขาวมีฟอง ในค่ำคืนวันคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ด้วยค่ะ
“Panettone”, a dome-shaped confectionery has been one of the traditional Christmas dishes in Italy. The bread loaf contains a mixture of candied fruit peeled, raisins, and honey, and provides delectable flavor along with its fluffy and tender texture whenever you take a bite. Some said that Panettone was originated in Milan, Italy before the bread spread its popularity across European countries. People usually pair Panettone with a cup of coffee or tea during break time. Also, the bread perfectly goes with “Moscato d’Asti” and “Austi Spumante”, sparkling white wine to celebrate Christmas at night and on New Year’s Day.
บุช เดอ โนเอล (เค้กขอนไม้)
Bûche de Noël (Yule Log)
เค้ก “บุช เดอ โนเอล” ถือกำเนิดจากความต้องการที่อยากจะอนุรักษ์ธรรมเนียมโบราณของชาวบ้านฝรั่งเศสที่มักตัดต้นไม้ชิ้นใหญ่และเผาท่อนไม้ตั้งแต่ช่วงเทศกาลคริสต์มาสไปจนถึงปีใหม่ เพราะเชื่อว่าจะนำพาโชคดีมาสู่ครอบครัว แม้ว่ารูปร่างทรงกระบอกจะดูละม้ายคล้ายขอนไม้ แต่ขนมหวานจานนี้กลับมีเนื้อสัมผัสนิ่มนวล หอมหวาน แถมด้านนอกยังเต็มเปี่ยมรสชาติเข้มข้นของช็อคโกแลตเข้ากันกับบัตเตอร์ครีมละมุน สวยทั้งรูป อร่อยทั้งรสเลยค่ะ
“Bûche de Noël” was originated by French people in the past with the hope to preserve their traditional way to celebrate Christmas. In the past, French people cut a large trunk of tree and burn it from Christmas till New Year’s Day. They believed that by doing so, they and their families would be blessed with luck. The cake might look quite similar to a yule log but instead of rough and hard wood-like texture, it offers soft and tender. The taste is also delightful. The cake is coated with rich Chocolate Ganache that perfectly goes with buttercream. You’ll love stunning look of Bûche de Noël as well as its delectable flavor.
พาฟโลวา
Pavlova
ขนมหวานที่เปี่ยมด้วยรูปร่างหน้าตาสวยงามและเรื่องราวเบื้องหลัง “พาฟโลวา” ขึ้นชื่อว่าเป็นของหวานประจำประเทศนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย ลักษณะคล้ายกับเมอแรงก์ (Meringue) เนื้อกรอบนอก นุ่มเบาด้านแบบฝรั่งเศส ทว่าเติมความหวานฉ่ำด้วยวิปครีมและผลไม้สด มีเรื่องเล่าว่าผู้คิดค้นสูตรขนมหวานจานนี้ได้แรงบันดาลใจจาก แอนนา พาฟโลวา (Anna Pavlova) นักบัลเลต์หญิงชาวรัสเซียชื่อดังที่เคยมาแสดงที่ประเทศนิวซีแลนด์และออสเตรเลียราวต้นศตวรรษที่ 20 ลักษณะของขนมจึงสวยงามดั่งที่เห็นค่ะ
An elegant dessert called “Pavlova” has its story behind. Pavlova is recognized as a traditional dessert of New Zealand and Australia. Its appearance looks similar to Meringue with crispy texture on the outside, and light and fluffy on the inside just like French meringue. The difference is that Pavlova is topped with fresh whipped cream and fresh fruits. The dessert was originally inspired by Anna Pavlova, a famous Russian ballerina who performed her impressive performance in New Zealand and Australia at the beginning of the 20th Century. That’s the reason why this dessert looks amazing.
คริสต์มาสชโตลเลน
Christmas Stollen
ชาวเยอรมันต่างรู้จัก “ชโตลเลน” ในฐานะขนมอบประจำเทศกาลคริสต์มาส ชโตลเลนดั้งเดิมมีส่วนผสมเรียบง่าย เพียง แป้ง ข้าวโอ๊ต และ น้ำ เท่านั้น ซึ่งเป็นสูตรที่เชื่อว่ามีมาตั้งศตวรรษที่ 14 ต่อมาจึงมีผู้คิดค้นสูตรชโตลเลนแบบใหม่ โดยผสม เนย ผลไม้เชื่อม ผลไม้แห้ง ถั่ว และ เครื่องเทศ ทำให้ชโตลเลนกลายเป็น เค้กผลไม้ (fruit cake) ที่มีรสชาติมากขึ้น นอกจากนี้ยังตกแต่งด้วยน้ำตาลไอซิงสีขาวโพลนราวกับหิมะ ทว่ามอบความรู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่ได้ลิ้มลอง
The German know “Stollen” as a traditional Christmas bakery. To make Stollen, you only need basic ingredients like flour, oats, and water. It is believed that the first Stollen was made in 14th Century. Later on, some people created a new recipe for Stollen by adding butter, candied fruits, dried fruits, nuts, and spices and so the bread looks more like fruit cake and tastes more flavorsome. Stollen looks like it’s covered by snow when sprinkled with icing sugar on top, but the bread makes you feel cozy and warm whenever you take a bite.
บริติช คริสต์มาส พุดดิ้ง
British Christmas Pudding
ขนมหวานดั้งเดิมที่ชาวอังกฤษต่างภาคภูมิใจว่าเป็นหนึ่งในมรดกทางอาหารของตัวเอง ปกติ ชาวอังกฤษจะเริ่มทำขนมพุดดิ้งล่วงหน้าเป็นเวลาหลายสัปดาห์และจะเก็บไว้ที่เย็นก่อนที่จะนำมาทานในค่ำคืนวันคริสต์มาส ในอดีต ส่วนผสมใช้ทำคริสต์มาสพุดดิ้งในอดีตอาจมีถึง 13 ชนิดเพื่อสื่อถึงพระเยซูและ 12 อัครธรรมฑูต (Jesus
and 12 Apostles) ปัจจุบัน สูตรคริสต์มาสพุดดิ้งมีหลากหลายมากขึ้น ยังคงรสชาติเข้มข้นหวานมันและเป็นหนึ่งในของหวานที่ชวนนึกถึงเทศกาลแห่งความสุขสันต์นี้ทุกครั้งค่ะ
British Christmas Pudding is a traditional dessert that the British feel proud of and has been recognized as one of British heritage. Generally, the British begin to make puddings several weeks prior to Christmas Day and refrigerate, then bring to dinner table on Christmas night. In the past, the pudding was made of up to 13 ingredients to represent the Lord Jesus and 12 Apostles. Nowadays, the pudding recipes become more varied, but its sweet and fruity flavor still reminds everyone of the festival of happiness every time.
ขนมปังขิง
Gingerbread
เชื่อกันว่าต้นตำรับขนมปังขิงดั้งเดิมมีมาตั้งแต่โบราณในฐานะเค้กน้ำผึ้ง โดยมีชาวอียิปต์และชาวกรีกเป็นผู้คิดค้นขึ้น ก่อนที่จะแพร่หลายในยุโรป ทำจาก น้ำผึ้ง เครื่องเทศต่างๆ เช่น ขิง อบเชย โปยกั๊ก กระวาน ลูกจันท์เทศ ฯลฯ ขนมปังขิงมีหลากหลายรูปแบบตามแต่ละท้องถิ่น รูปทรงยอดนิยมที่มักทำคือขนมปังขิงรูปร่างคล้ายคน (Gingerbread Man) ซึ่งมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า เริ่มทำในสมัยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ (Queen Elizabeth I) เพื่อมอบแก่พระราชอาคันตุกะหรือบุคคลสำคัญ นอกจากนั้นยังมีรูปหัวใจ รูปเกล็ดหิมะ รูปต้นสน เพื่อต้อนรับวันคริสต์มาส
It’s believed that gingerbread has long been created as “Honey Cake” by the Egyptians and Greeks. Later on, it became popular among European countries. Traditional gingerbread was made of honey and spices such as ginger, cinnamon, star anise, ground clove, nutmegs, etc. Its shapes are varied based on the locations, however, the most popular one is “Gingerbread Man.” Based on the historical records, the bread was originally made in the reign of Queen Elizabeth I to offer to the visitors and important persons. Apart from a gingerbread man, you can also find gingerbread in different shapes and forms like heart, snowflakes, and pine trees to celebrate Christmas holiday.
โห ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าขนมหวานรับวันคริสต์มาสเหล่านี้จะมีเรื่องราวน่ารู้มากมายเลยทีเดียว แน่นอนว่ารู้อย่างเดียวไม่พอ ต้องลงมือทำด้วย! เพื่อต้อนรับวันคริสต์มาส ครั้งนี้แอดมินจะมานำเสนอสูตรทำ “คุ้กกี้ขนมปังขิง” ฉบับคลาสสิกที่เป็นที่โปรดปรานของทุกเพศทุกวัย แอบบอกว่าทำไม่ยากอย่างที่คิด และจะ
สนุกมากขึ้นหากเพื่อนๆ ชวนสมาชิกในครอบครัวมาทำร่วมกันนะคะ Jingle Bell, Jingle Bell Jingle All The Way! อย่ารอช้า ตามแอดมินมาเลยค่ะ
Wow, it’s amazing to learn more about the story behind these sweet treats. Well, to know is not enough. You should also do if you wish to experience the real Christmas. We come up with “Gingerbread Cookies”, a classical dessert recipe that everyone loves. It’s easier than you might imagine, and you will feel more joyful if you make this dessert along with your friends and family. Say “Jingle Bell, Jingle Bell Jingle All the Way!” and let’s get yourself prepared.
วัตถุดิบขนมปังขิง
Ingredients for Gingerbread Cookies
1 แป้งเอนกประสงค์ 3 ถ้วย/ All-purpose flour 3 cups
2 ผงฟู 1 ½ ช้อนชา/ Baking powder 1 ½ tsp.
3 เบคกิ้งโซดา ¾ ช้อนชา/ Baking soda ¾ tsp.
4 เกลือ ¼ ช้อนชา/ Salt ¼ tsp.
5 ขิงผง 1 ช้อนโต๊ะ/ Ginger powder 1 tbsp.
6 ชินนามอน 2 ช้อนชา/ Cinnamon powder 2 tsp.
7 ผงกานพลู ¼ ช้อนชา/Clove powder ¼ tsp.
8 เนยจืด 90 กรัม/ Unsalted butter 90 g.
9 น้ำตาลทรายแดง (น้ำตาลอ้อย) ¾ ถ้วย/ Molasses (cane sugar) ¾ cup
10 ไข่เบอร์ใหญ่ (เบอร์ 0) 1 ฟอง/ 1 Egg (No.0)
11 น้ำผึ้ง 4 ช้อนโต๊ะ/ Honey 4 tbsp.
12 กลิ่นวนิลา 2 ช้อนชา/ Vanilla flavor 2 tsp.
13 ผิวมะนาวขูด 1 ช้อนชา/ Lemon zest 1 tsp.
วัตถุดิบ ตกแต่งหน้าขนม
Ingredients for garnishing
1.ไข่ขาว 1 ฟอง/ 1 egg white
2.น้ำตาลไอซิ่ง 115 กรัม/ Icing sugar 115 g.
3.ครีมออฟทาทา ½ ช้อนชา/ Cream of tartar ½ tsp.
4.สีผสมอาหาร (ตามชอบ)/ Food coloring (as preferred)
ขั้นตอนการทำ
Instructions
1.ตีส่วนผสมของ เนย ให้เนียนเข้ากัน จากนั้นร่อนส่วนน้ำตาลทรายแดง และแยกกากออก
Whisk butter mixture until blended and smooth, then sift the molasses and set sugar crumb aside
2.ใส่ไข่และน้ำผึ้ง ตีส่วนผสมให้เข้ากัน จากนั้นเติมแป้ง ผสมของ แป้ง เกลือ ผงขิง ผงกานพลู พงอบเชย ผงฟู เบคกิ้งโซดา ผสมให้เข้ากัน
Add egg and honey into a bowl then whisk together. After that, add flour, salt, ginger powder, clove powder, cinnamon powder, baking powder, and baking soda, mix all the mixture until well-blended.
3.เพิ่มความหอมด้วยกลิ่นวานิลลาและผิวมะนาว ผสมให้เข้ากัน จากนั้นนวดแป้งด้วยมือ กระทั่งได้เนื้อเนียนละเอียดสวย
Add vanilla flavor and lemon zest and combine them together to boost aroma, then roll the dough with
both hands until the dough becomes smooth.
4.คลุมเนื้อแป้งที่ผสมไว้แล้วด้วยถุงพลาสติกใส ทิ้งไว้ให้แป้งเซตตัว ระหว่างนั้นให้อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศา
Cover the mixed dough with a plastic bag and leave until it sets. Meanwhile, preheat the oven at 180 degrees.
5.สำหรับครีมแต่งหน้าขนม นำไข่ขาวมาตีให้ขึ้นฟู ตามด้วย ครีม ออฟ ทาทา และน้ำตาลไอซิง ตีจนครีมตั้งยอด จากนั้นพักไว้
To make creamy glaze, whisk egg whites until smooth and fluffy, add cream of tartar and icing sugar until you get a foamy bubble top, then set aside.
6.นำแป้งคุ้กกี้มารีดให้เป็นแผ่นบาง หนาประมาณ ½ เซ็นติเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้แป้งเหนียวติดโต๊ะ สามารถใช้แป้งเอนกประสงค์ทาได้
Roll cookie dough evenly until it gets to ½ cm. thickness. To prevent the dough from sticking on the table, sprinkle all-purpose flour on the dough.
7.จากนั้นให้นำพิมพ์ที่เตรียมไว้มาตัดเป็นชิ้นๆ แล้วจึงนำไปเรียงใส่ถาด อบที่อุณหภูมิ ประมาณ 7 – 10 นาที นำออกมาพักให้เย็นเพื่อเตรียมแต่งหน้าขนม
Press the cookie cutter into the dough, and place them into a baking pan. Bake at …about 7-10 minutes. Remove cookies from the oven and let cool before decorating.
8. นำครีมที่ได้ใส่ถุงบีบ และตกแต่งหน้าคุกกี้ขนมปังขิงให้สวยงามพร้อมเสิร์ฟ
Add cream to a piping bag, garnish your gingerbread cookies, and now they’re ready for serving.
เห็นไหมคะว่า วันแห่งความสุขสันต์เช่นนี้จะพิเศษยิ่งขึ้น ถ้าได้ลิ้มลองอาหารจานอร่อยหรือขนมหวานรสชาติดี สำหรับสูตร “คุกกี้ขนมปังขิง” ไม่ว่าจะทำทานในครอบครัวหรือทำเป็นของฝาก แอดมินเชื่อว่าทั้งผู้ให้และผู้รับจะมีรอยยิ้มพิมพ์ใจ พลางคิดถึงช่วงเวลาแสนหอมหวาน สุดท้าย แอดมินขออวยพรให้เพื่อนๆ ทุกคนมีความสุขในวันคริสต์มาสตลอดจนถึงปีใหม่ 2564 ที่จะถึงนี้ หากเพื่อนๆ กำลังมองหาของขวัญหรือวัตถุดิบรังสรรค์อาหารมื้อพิเศษรับเทศกาลส่งท้ายปี ก็อย่าลืมช็อปที่ท็อปส์ทุกสาขา และท็อปส์ออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงนะคะ Merry Christmas!
The season of happiness would be more special with flavorsome festive dishes or desserts. You can simply follow “Gingerbread cookies” recipe to share with everyone in your family or hand to your friends as a gourmet gift. This delicate dessert would instantly make everyone happy and remind them of the most wonderful time of the year. Last but not least, we wish you a Merry Christmas and Happy New Year 2021. If you’re still looking for something nice to give as a gift or ingredients for special meals to celebrate the festive holiday, you can shop at all branches of Tops market or visit our online store for 24-hour- shopping. Merry Christmas!
Comments