top of page
Branding_100[Jun2023]-03.jpg

10 เรื่องของ พาสต้า ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน

ชาวอิตาลีมีความเชื่อว่าการทานอาหารเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่เป็นมากกว่าแค่การประทังความหิวของมนุษย์ แต่เป็นศาสตร์และศิลป์ที่จำเป็นต้องใช้ความรู้และความเชี่ยวชาญเพื่อรังสรรค์อาหารแต่ละชนิดให้ออกมาสมบูรณ์แบบ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นการทำหรือการทานอาหาร ชาวอิตาลีจึงมักใส่ใจในทุกขั้นตอนเป็นพิเศษ และนี่เป็นอีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ของวัฒนธรรมฉบับอิตาลีที่ยากจะมีที่ใดเหมือนค่ะ


The Italians believe that eating is more than just one of the activities to stave off hunger. It is, in fact, the science and art that require both knowledge and expertise in order to craft each perfect dish. As a result, the Italian pay special attention to every step of cooking as well as eating which makes it a unique charm of unmatched Italian culture.


สำหรับซีรีส์บทความรู้เฟื่องเรื่องอิตาลีครั้งนี้ แอดมินจะขอพาเพื่อนๆ ชาวท็อปส์ พิกส์ทุกคนไปออก

ทริป (ทิพย์) ที่ประเทศอิตาลี อีกครั้ง พร้อมเรียนรู้เกร็ดน่าสนใจของ “พาสต้า” อาหารประเภทเส้นที่ชาวอิตาลีขาดไม่ได้ ผ่านมุมมองเชิงวัฒนธรรมต่างๆ แต่จะมีเรื่องราวน่าทึ่งแค่ไหน มาติดตามกันต่อได้เลยค่ะ


In this series, everyone will be taken on an imaginary trip to Italy once again. Look at “pasta,” a type of food the Italian find inevitable through the cultural diversity lens. Explore interesting yet astonishing facts about Italian noodles.


พาสต้าไม่ได้ถือกำเนิดที่อิตาลี

Pasta is not native to Italy.

เมื่อพูดถึงอาหารอิตาลี นอกจากเมนูแป้งแผ่นแบนสุดคลาสสิกอย่างพิซซ่า เมนูอาหารประเภทเส้นหรือ “พาสต้า” ก็มีชื่อเสียงมากและกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์คู่ครัวอิตาลีมาอย่างยาวนาน แต่เชื่อหรือไม่คะว่าพาสต้าไม่ได้มีต้นตอดั้งเดิมมาจากประเทศอิตาลีหรือทวีปยุโรปเลยสักนิด! แล้วพาสต้ามาจากไหนกันแน่ล่ะ? เรื่องเล่าขานย้อนกลับไปในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 13 เผยว่า มีนักสำรวจชาวเวนิส นาม “มาร์โก โปโล” (Marco Polo) ได้ออกเดินทางไปยังโลกตะวันออกผ่านเส้นทางสายไหม (The Silk Road) และค้นพบกรรมวิธีการผลิตบะหมี่ของชาวจีนโบราณที่บริโภคอาหารชนิดนี้มากว่า 5,000 ปีแล้วอย่างไรก็ตามก็ต้องยกความดีความชอบให้ชาวอิตาลี เพราะกว่าจะมาเป็นพาสต้าอย่างที่เรารู้จักกัน ชาวอิตาลีเป็นผู้ต่อยอดพัฒนาสูตรทำพาสต้าชนิดต่างๆ จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไปโดยปริยายค่ะ


Apart from classic round flattened based dough like a pizza, another famous type of food or “pasta” is very famous and has long been a symbol of Italian cuisine. Believe it or not? Pasta is not native to Italy or any European region! But where did pasta come from? The story of pasta has been revealed that Marco Polo, a Venetian explorer, traveled the Eastern world along the Silk Road in the 13th century and discovered how to make yellow noodles from the Ancient Chinese who had been eating this kind of food for over 5,000 years. However, credit needs to be given to the Italian as they continued to develop different types of pasta until distinctive and globally known today.


พาสต้ามีมากกว่า 600 ชนิดทั่วโลก

There are over 600 types of pasta worldwide.

หากใครยังคงเรียนรู้วิธีจำลักษณะของพาสต้าชนิดต่างๆ อยู่ แอดมินขอบอกเลยค่ะว่างานนี้ต้องศึกษากันอีกยาวๆ เพราะบนโลกใบนี้มีพาสต้าชนิดต่างๆ ให้ได้ค้นพบกว่า 600 ชนิด นอกจากนั้นยังมีอีก 1,300 ชื่อเรียก! อย่างไรก็ตาม 3 ชนิดของพาสต้าที่มีชื่อเสียงและหลายคนน่าจะรู้จักกันดีคือ เพนเน (Penne), สปาเกตตี (Spaghetti) และ มักกะโรนี (Macaroni) แต่ก็คงเป็นไอเดียน่าสนุกไม่น้อย หากเหล่าคนรักพาสต้าจะออกไปตามล่าหาชิมพาสต้าชนิดต่างๆ ให้ครบนะคะ


Still, finding a way to remember the characteristics of all the pasta types? It will take a rather long time to learn since there are more than 600 kinds with over 1,300 names. In spite of that, 3 common yet renowned types include penne, spaghetti, and macaroni. Perhaps it is a fun idea for pasta lovers to taste all the variations of Italian pasta.


ซอสเพสโต้มะเขือเทศเพิ่งมาทีหลัง

Tomato pesto was later created.

พาสต้าและซอสเพสโต้ (Pesto) เป็นสองสิ่งที่มักจะอยู่คู่กันเสมอในเมนูพาสต้าคลาสสิกแบบอิตาลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งซอสเพสโต้ทำจากมะเขือเทศตากแห้ง หรือในภาษาอิตาลีเรียกว่า “ซอสแดง” (Pesto Rosso) เชื่อว่าชาวอิตาลีเริ่มรู้จักการทำซอสเพสโต้มะเขือเทศในช่วงยุคเรอเนสซองส์ (Renaissance) เมื่อ คอร์เตส นักสำรวจชาวสเปนนำเมล็ดพันธุ์มะเขือเทศจากบราซิลมาเผยแพร่ในทวีปยุโรปราวปี ค.ศ. 1519 แต่ดั้งเดิม ซอสเพสโต้มักทำจากกระเทียม ใบโหระพา น้ำมันมะกอกซึ่งเป็นสูตรโบร่ำโบราณมีมาตั้งแต่สมัยโรมัน และมีสีเขียว ซอสเพสโต้สีแดงจึงเข้ามาช่วยเติมรสชาติใหม่ๆ ให้กับเมนูพาสต้าและปัจจุบันก็ได้รับความนิยมไม่แพ้สูตรดั้งเดิมเลยค่ะ


Pasta and pesto are always best friends for every classic Italian pasta dish, particularly the variety of pesto made with sun-dried tomato, also known as pesto Rosso in Italian. It is believed that the Italian began to know how to make pesto Rosso during the Renaissance period when Cortes, a Spanish explorer, introduced tomato seeds from Brazil to Europe in 1519. Originally, the green pesto was made from garlic, basil leaves, and olive oil of the Ancient Roman recipe. Equally popular nowadays, Pesto Rosso consequently adds a scrumptiously new flavor to the pasta dish.


บรรพบุรุษพาสต้าอาจมีที่มาจากอารยธรรมกรีก-โรมันโบราณ

The ancestor of pasta may originate from the Greek-Ancient Roman Civilization.

แม้หลักฐานทางประวัติศาสตร์จะชี้ว่าพาสต้ามีต้นตอมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ แต่มีนักวิชาการบางฝ่ายชี้ว่าพาสต้าอาจมีที่มาจากกรีกและโรมันโบราณมากกว่า เพราะย้อนกลับไปเมื่อ 1,000 - 800 ปีก่อนคริสตกาล อาณาจักรกรีกโบราณได้มีการบันทึกอาหารชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นแป้งผ่านการรีดจนแบนและหั่นเป็นเส้นชื่อ “laganon” ซึ่งปัจจุบันพาสต้าชนิดนี้ยังคงปรากฏในอาหารอิตาลีอยู่ และน่าจะเป็นอีกหนึ่งข้อสันนิษฐานต้นกำเนิดของพาสต้าที่น่าเชื่อถือค่ะ

Despite historical evidence suggesting that pasta originated in Main China, some scholars argued that its origin may be Greece or Ancient Roman. Tracing back to 1,000 – 800 BC, the Ancient Greece Empire had recorded a type of food made from a flattened sheet of dough and cut into strips called “laganon”. These days, laganon still exists in Italian cuisine and thus one reliable assumption for the origin of pasta.

ทานพาสต้ามีส่วนช่วยทำให้อารมณ์ดี

Pasta promotes a positive mood.


อาหารอร่อยย่อมทำให้คนทานรู้สึกอารมณ์ดีไปด้วย แต่สำหรับพาสต้า เหตุผลที่ทำให้เวลาเราทานแล้วอาจทำให้รู้สึกดีขึ้นมาได้นั้นเป็นเพราะว่า คาร์โบไฮเดรตในพาสต้ามีส่วนสำคัญต่อการผลิตสารชีวเคมี “เซราโทนิน” (Seratonin) หรือที่รู้จักอีกชื่อหนึ่งคือ “สารแห่งความสุข” ซึ่งมีบทบาทควบคุมอารมณ์ต่างๆ ของมนุษย์ จึงไม่ใช่เรื่องประหลาดใจหากพาสต้าจะทำให้ผ่อนคลาย อารมณ์ดีแถมยังอิ่มท้องอีกด้วยค่ะ


Good food boosts a good mood. In the case of pasta, carbs contained play a key role in producing “serotonin”, a chemical of happiness, which controls and stabilizes our mood and feelings. It is, therefore, not surprising if pasta can relax, improve your mood, and above all filling.


ตำนานต้นไม้ที่ออกผลเป็นเส้นพาสต้ามีอยู่จริงหรือไม่?

Did the legend of the pasta tree exist?

หนึ่งในเรื่องสุดฮือฮาเมื่อ 64 ปีก่อน เมื่อสำนักข่าวบีบีซี (BBC) ของประเทศอังกฤษได้ออกสารคดีขนาดความยาว 3 นาทีที่เผยเรื่องราวแปลกประหลาดเกี่ยวกับ “ต้นไม้ปริศนาที่ออกผลเป็นเส้นสปาเกตตี” ในเมืองติชีโน (Ticino) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อีกทั้งเผยแพร่วิถีชีวิตของชาวเมืองที่ออกมาเก็บเกี่ยวเส้นสปาเกตตีเป็นอาหาร จนเกิดเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ว่าต้นไม้สปาเกตตีนี้มีจริงหรือไม่? คำตอบก็คือ ไม่จริงค่ะ เพราะเทปรายการนี้จงใจทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของ “เอพริลฟูลส์เดย์” (April Fool’s Day) วันที่ผู้คนมักมีธรรมเนียมออกมาเล่นมุขตลกหรือสร้างเรื่องโกหกต่างๆ เพื่อความสนุกสนานค่ะ


The talk of the town 64 years ago, the BBC broadcasted a 3-minute documentary reporting about “the unknown spaghetti tree” in Ticino, Switzerland. In addition to the astonishing story, the revelation of the local lifestyle and their harvest of spaghetti for food became a controversial topic whether the so-called tree existed. In fact, the story was a hoax as this program was purposedly created for April Fool’s Day, the day that practical jokes or pranks are traditionally played on one another for fun.


ใครคือผู้นำพาสต้าเข้ามาสู่ทวีปใหม่เป็นครั้งแรก?

Who first brought pasta to the new continent?

เชื่อกันว่า โธมัส เจฟเฟอร์สัน (Thomas Jefferson) ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาคนที่ 3 ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “บิดาแห่งประชาธิปไตยของสหรัฐอเมริกา” คือผู้นำพาสต้ามาเผยแพร่ในทวีปใหม่นี้เป็นคนแรกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1789 โดยพาสต้าที่เจฟเฟอร์สันโปรดปรานมากเป็นพิเศษคือพาสต้าชนิด “มักกะโรนี” จากประเทศอิตาลี ทำจากแป้งข้าวสาลีบดหยาบหรือ “เซโมลินา” (Semolina) จากเมืองเนเปิลส์ (Naples) ส่วนมรดกทางอาหารที่ยังคงตกทอดมาในสังคมอเมริกันคือเมนูแสนอร่อยอย่าง “แมคแอนด์ชีส” (Mac n’ Cheese) ที่เกิดจากการดัดแปลงนำมักกะโรนีมาจับคู่กับชีสหรือเนยแข็งค่ะ


It is believed that Thomas Jefferson, the third President of the United States, revered as the Father of Democracy first brought pasta to the new continent. Since 1789, his favorite pasta was Italian macaroni made from semolina, ground durum wheat from Naples. The heritage passed on to the American society is the delectable mac n’ cheese that had been slightly twisted by pairing macaroni with cheese or hard butter.


วันพาสต้าโลกตรงกับวันไหน?

When is the World Pasta Day?

ปัจจุบันนี้ พาสต้าไม่ใช่อาหารที่จำกัดเพียงชาติใดชาติหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นหนึ่งในอาหารที่ผู้คนทั่วโลกนิยมทานอย่างแพร่หลายจึงทำให้เกิดวัน “พาสต้าโลก” (World Pasta Day) ขึ้นมา โดยวันเฉลิมฉลองของคนรักเส้นพาสต้านี้ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1995 เมื่อบริษัทผู้ผลิตเส้นพาสต้ากว่า 40 บริษัททั่วโลกได้รวมตัวกันและก่อตั้ง “สภาพาสต้าสากล” (International Pasta Congress) เพื่อสร้างความสำคัญและยกระดับการทานพาสต้าสู่ระดับโลกค่ะ


Not limited to one nation, pasta nowadays is widely popular among people around the world leading to World Pasta Day as a result. The day is delightfully celebrated by pasta lovers and later made officially in 1995 when pasta producers from 40 companies globally congregated and established “International Pasta Congress” for the purpose of emphasizing the importance and promoting pasta as a global food for those of high-level gastronomy.


ชาวอิตาลีชื่นชอบพาสต้าจริงหรือ?

Do the Italians actually love pasta?

จากข้อมูลเชิงสถิติของ International Pasta Organization (IPO) พบว่า 98% ของชาวอิตาลีบริโภคพาสต้าในชีวิตประจำวันและแต่ละคนมีสถิติเฉลี่ยบริโภคพาสต้าประมาณ 23.1 กิโลกรัมต่อปี นอกจากนั้นยังมีข้อมูลน่าสนใจว่าในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ชาวอิตาลีจำนวนมากนิยมทำเมนูพาสต้าที่บ้านมากขึ้นคิดเป็นชาวอิตาลี 1 ใน 4 ที่เพิ่มปริมาณการบริโภคพาสต้า เป็นข้อพิสูจน์ว่าชาวอิตาลีชื่นชอบพาสต้าอย่างมากและไม่มีทีท่าว่าความหลงใหลในเมนูเส้นชนิดนี้จะลดน้อยลงไปเลยสักนิดค่ะ


Referring to the statistic data from International Pasta Organization (IPO), it has been found that 98% of Italians consume pasta on the daily basis accounting for an average of 23.1 kilograms annually per person. Apart from that, it is interesting that a majority of Italian tend to cook pasta at home more frequently during the COVID-19 pandemic. Approximately one-fourth of the Italian consume more pasta in quantity which has proven that their love for pasta is strong and there is no sign of their passion wearing off.


พาสต้าถ้วยใหญ่ที่สุดในโลกที่หนักกว่ารถยนต์

The world’s largest bowl of pasta is heavier than a car.



สายพาสต้าต้องถูกใจสิ่งนี้หรือเคยฝันไว้อย่างแน่นอน เพราะนี่เป็นพาสต้าถ้วยใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีมา! ในปี ค.ศ. 2015 กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด (Guinness World Records) ผู้รวบรวมสถิติแปลกๆ บนโลกต้องเข้ามาพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ของ “พาสต้าถ้วยยักษ์” ในประเทศโปแลนด์ ที่มีน้ำหนักมาถึง 7,900 กิโลกรัม หนักกว่ารถยนตร์หลายคันรวมกันเสียอีก ไอเดียหลุดโลกนี้ต้องอาศัยเชฟชาวโปแลนด์มากกว่า 40 ชีวิตและใช้เวลาทำยาวนานถึง 19 ชั่วโมง แถมยังมีซอสเพสโต้โบโลเนส (Bolognese) ราดปิดท้ายด้วยนะ อลังการสุดๆ ไปเลยค่ะ


Calling all pasta fans, the world’s largest bowl of pasta must be something you have ever dreamed of! In 2015, it captured the attention of the Guinness World Records, the world’s ultimate record-breaking facts and achievements, that they had to prove the greatness of the world’s most massive pasta bowl in Poland weighed 7,900 kilograms which were heavier than the weight of several cars combined. This unconventional idea took 40 Polish chefs over 19 hours to achieve. Bolognese pesto was added to the pasta to finish off with sumptuousness.


น่าทึ่งใช่ไหมคะกับ 10 เรื่องราวของพาสต้า ที่เพื่อนๆ อาจไม่เคยรู้มาก่อน หรือถ้าตอนนี้รู้แล้วเริ่มสนใจอยากลองทานพาสต้ากันแล้วแน่ๆ เช่นเคยค่ะ ครั้งนี้แอดมินไม่ได้มาบอกเล่าแค่สาระน่ารู้คู่ครัวอิตาลีอย่างเดียว แต่พกสูตรทำเมนูพาสต้าเด็ดๆ มาฝากกันด้วย นั่นก็คือ “พาสต้าผัดซอสเพสโตแฮมและผัก” ที่รวมความอร่อยเข้มข้นของเส้นพาสต้าผสมเห็ดทรัฟเฟิล นำมาผัดเข้ากับแฮมสไลด์ผสมทรัฟเฟิล ผักอบ และซอสเพสโต้มะเขือเทศสุดคลาสสิก แค่พูดถึงก็ได้กลิ่นหอมลอยทะลุจอมาเลยค่ะ สัมผัส Taste of Italyไปกับเมนูสไตล์อิตาลีจานนี้ พร้อมดูส่วนผสมและวิธีทำไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ


Amazed by the fun facts about pasta you probably did not know before? If you are in a mood for pasta tasting, we have such a mind-blowingly delectable recipe as “Ham & Sun-dried Tomato Pesto Pasta” to give away. The rich, full-flavored truffle pasta is stir-fried with cooked ham with truffle, baked vegetables, and classic tomato pesto. You can smell the scrumptious fragrance through the screen just talking about it. Experience the taste of Italy with this inspiring Italian dish. Check out the list of ingredients and instructions below.



วัตถุดิบ

Ingredients

1. คาวานน่า น้ำมันมะกอกธรรมชาติ 1 ช้อนโต๊ะ /Cavanna Extra Virgin Olive Oil 1 tbsp.

2. คารันดินี น้ำส้มสายชูหมักจากองุ่น 1 ช้อนโต๊ะ /Carandini Balsamic Vinegar of Modena 1 tbsp.

3. พาสต้านาทูรา เส้นพาสต้าไม่มีกลูเตนผสมเห็ดทรัฟเฟิล พาสต้านาทูร่า 2 ออนซ์ /

Pasta Natura Gluten-Free Truffle Pasta 2 oz.

4. แซคลา ซอสเพสโตมะเขือเทศวีแกน /Sacla’ Vegan Tomato Pesto

5. เฟอร์รารินี คุกแฮมสไลด์โพรซูโต้ผสมทรัฟเฟิล / Ferrarini Cooked Ham Sliced Prosciutto Cotto with Truffle

6. เฟอร์รารินี ชีสพาร์มิเจียโนริเนียเอโน /Ferrarini Parmigiano Reggiano Cheese

7. แตงกวาซูกินี่ หั่นเต๋า ¼ ลูก /¼ Zucchini (diced)

8. ฟักทองน้ำเต้า หั่นเต๋า ¼ ลูก /¼ Yellow Squash (diced)

9. พริกหวาน สีแดง หั่นเต๋า ¼ ลูก. /¼ Red Bell Pepper (diced)

10. หอมหัวใหญ่ หั่นเต๋า ¼ ลูก /¼ Onion (diced)

11. เกลือ /Salt

12. พริกไทยดำป่น /Ground Black Pepper





วิธีทำ

Instructions


1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 218 องศาเซลเซียส จากนั้นผสมซูกินี่ ฟักทองน้ำเต้า พริกหวานแดง หอมหัวใหญ่ ลงในชาม จากนั้นเทน้ำมันมะกอก น้ำส้มสายชูหมัก โรยเกลือ และพริกไทยดำป่น คลุกให้ส่วนผสมเคลือบผักให้ทั่ว Warm the oven to the temperature of 218 °C. Put zucchini, yellow squash, red bell pepper, and onion into a mixing bowl. Add olive oil, balsamic vinegar, salt, and pepper. Stir until all the seasonings properly coat the vegetables.

2.วางผักที่ผ่านการคลุกด้วยส่วนผสมในถาดอบที่รองด้วยกระดาษรองอบ จากนั้นอบผักประมาณ 30 นาที หรือจนกว่าผักจะมีสีเหลืองสวย

Lay the seasoned vegetable mix over the baking paper on a tray. Bake for 30 minutes or until gorgeously golden.

3.ต้มน้ำสะอาดใส่เกลือในหม้อ จากนั้นใส่เส้นพาสต้าลงไปต้มประมาณ 9 นาที (แบบอัลเดนเต้) แล้วพักไว้ให้เย็น ขณะเดียวกันให้แบ่งน้ำต้มพาสต้าที่เหลือไว้ประมาณ 1 ถ้วย

Boil a pot of water with some salt. Add pasta to cook for about 9 minutes to al dente. Set aside and allow it to cool down while saving the remaining water from cooking the pasta for 1 cup.

4. เทซอสเพสโต้มะเขือเทศลงบนกระทะ ใส่แฮมสไลด์โพรซูโต้ผสมทรัฟเฟิล และเส้นพาสต้า จากนั้นผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน และเติมผักอบลงไปในกระทะ ผัดให้ส่วนผสมเข้ากับพาสต้าและแฮม

Pour tomato pesto into a saucepan. Add cooked ham, followed by the pasta. Then stir to mix well. Then, Add the baked vegetable mix and keep stirring to combine with the ham and pasta.

6. ค่อยๆ ตักพาสต้าลงในจานที่เตรียมไว้ จากนั้นโรยด้วยชีสพาร์มิเจียโนริเนียเอโน พร้อมเสิร์ฟ

Carefully dish up and sprinkle Ferrarini Parmigiano Reggiano Cheese on top for serving.

คงไม่มีคำบรรยายใดๆ ที่บ่งบอกถึงความอร่อยของเมนูอาหารอิตาลีจานนี้ได้ดีเท่ากับคำว่า “Delizioso” ! แล้วแน่ๆ เพราะครบเครื่องทั้งเส้นพาสต้าและซอสเพสโต้สูตรเด็ด แถมยังเปี่ยมกลิ่นอายความหรูหราด้วยเห็ดทรัฟเฟิล เรียกได้ว่าพร้อมเปิดโอกาสให้เพื่อนๆ ชาวท็อปส์ พิสก์ได้สัมผัสประสบการณ์ไฟน์ไดนิ่ง (Fine Dining) รูปแบบใหม่ได้ที่บ้านเลยค่ะ


Delizioso! is simply a perfect word to describe the deliciousness of this Italian dish. Jam-packed with quality pasta, flavorsome pesto, and the lavish aroma from truffle, it will bring all Tops Picks fans a new form of the fine dining experience at home.


สำหรับใครที่หลงใหลในเสน่ห์วัฒนธรรมอิตาลีและอยากดื่มด่ำกับอรรถรสแบบอิตาลีแท้ๆ วันนี้แอดมินมีข่าวดีมาฝากค่ะ เพราะที่ “เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์” สุดยอดฟู้ดสโตร์ที่ดีที่สุดในเอเชียได้จัดงาน “Taste of Italy” มหกรรมรวมสินค้าอิตาลียอดนิยมหลายรายการ พร้อมกับสินค้าใหม่สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่หาได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น! พร้อมโปรโมชั่นพิเศษอีกมากมาย ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2564 – 29 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ที่ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ใกล้บ้านทุกสาขา หรือเลือกช็อปสะดวกผ่านช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ Tops Online และแอปพลิเคชัน TOPS ง่ายๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัสได้ตลอด 24 ชั่วโมงนะคะ ^^


Great news for those who find Italian culture fascinating and wish to indulge in the authentic Italian flavor! Central Food Hall, one of Asia’s best food destinations, organizes the “Taste of Italy” festival where a large selection of top-listed as well as new-in Italian-made products are exclusively available here. Find special promotions from 2 June 2021 – 29 June 2021 at your nearest Central Food Hall branch or simply shop at Tops Online website and TOPS application 24 hours just a click away.


Comments


Branding_100[Jun2023]-02.jpg
shop anywhere.jpg
bottom of page